ในลอนดอน เจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 1,000 นายถูกจัดวางกำลังในขณะที่ฝูงชนเดินขบวนจาก New Broadcasting House ของ BBC ไปยัง Downing Street
ตำรวจพบ ระบุว่า มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 7 คน ในจำนวนนี้ 1 คนฐานสร้างความเสียหายทางอาญา และอีก 2 คนฐานกระทำความผิดต่อความสงบเรียบร้อย
เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นักรบจากกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์เข้าไปในชุมชนใกล้ฉนวนกาซา คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1,300 ราย และจับตัวประกันได้หลายสิบคน
มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 2,200 คนในฉนวนกาซานับตั้งแต่อิสราเอลเปิดการโจมตีทางอากาศตอบโต้ และคาดว่าจะมีการโจมตีภาคพื้นดินด้วย
ในลอนดอนที่การสาธิตการรณรงค์ความสามัคคีปาเลสไตน์ ธงปาเลสไตน์และป้ายสนับสนุนถูกโบกสะบัดขณะที่ผู้คนสวดมนต์ระหว่างการเดินขบวนไปยังถนนดาวนิง
ตำรวจพบกล่าวว่าเมื่อเวลา 19.40 น. BST ของวันเสาร์ พื้นที่รอบๆ จัตุรัสทราฟัลการ์ปลอดโปร่ง และฝูงชนหลักที่มาจากการเดินขบวนก็แยกย้ายกันไป
ก่อนหน้านี้กองกำลังดังกล่าวกล่าวว่ามี “ความไม่เป็นระเบียบเล็กๆ น้อยๆ” ซึ่งรวมถึงพลุ ขวด และดอกไม้ไฟที่ถูกขว้างใส่ตำรวจ
ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้เตือนว่า ใครก็ตามที่แสดงการสนับสนุนกลุ่มฮามาส องค์กรก่อการร้ายที่ถูกสั่งห้าม หรือเบี่ยงเบนไปจากเส้นทาง จะถูกจับกุม
ดูเหมือนว่าตำรวจจะจับกุมชายหลายคนในจัตุรัสทราฟัลการ์ มีผู้ถูกกล่าวหาว่าขว้างสิ่งของใส่รถตู้ตำรวจในการประท้วงที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ใกล้กับเสาเนลสันในจัตุรัสทราฟัลการ์
เงื่อนไขก่อนหน้านี้ที่บังคับใช้ภายใต้พระราชบัญญัติความสงบเรียบร้อยสาธารณะเพื่อจัดการกับการเดินขบวนได้ถูกยกเลิกไปเมื่อเย็นวันเสาร์ ขณะที่เงื่อนไขพิเศษที่ห้ามไม่ให้ผู้คนรวมตัวกันในบริเวณถนนเคนซิงตันไฮสตรีท ใกล้กับสถานทูตอิสราเอล ยังคงบังคับใช้อยู่
กองกำลังดังกล่าวระบุว่าได้ตระหนักถึงผู้คนที่จุดพลุหรือดอกไม้ไฟ และกล่าวว่า “เราจะดำเนินการเมื่อเราระบุตัวผู้ครอบครอง/ขว้างสิ่งเหล่านั้นได้”
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีกระทรวง ซูเอลลา บราเวอร์แมน เรียกร้องให้หัวหน้าตำรวจพิจารณาว่าสโลแกนดังกล่าวควรตีความว่าเป็น “การแสดงออกถึงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเห็นอิสราเอลถูกลบออกจากโลก” หรือไม่ ซึ่งอาจจะทำให้กลายเป็นความผิดด้านความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ “ที่เลวร้ายยิ่งขึ้นทางเชื้อชาติ” ในบางบริบท
การชุมนุมเกิดขึ้นในเมืองต่างๆ ในสหราชอาณาจักร รวมถึงลิเวอร์พูล บริสตอล เคมบริดจ์ นอริช โคเวนทรี เอดินบะระ และสวอนซี
ในบรรดาผู้ที่ปราศรัยในการชุมนุมที่ลอนดอนคืออดีตผู้นำพรรคแรงงาน เจเรมี คอร์บิน เขากล่าวว่านักการเมืองอังกฤษไม่ควรให้อภัยกับปฏิบัติการทิ้งระเบิดของอิสราเอล
ส.ส.ผู้เป็นอิสระในขณะนี้ กล่าวถึงการเดินขบวนว่าเป็น “วันแห่งความสามัคคี” ว่า “หากคุณเชื่อในกฎหมายระหว่างประเทศ หากคุณเชื่อในสิทธิมนุษยชน คุณจะต้องประณามสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ในฉนวนกาซาโดยกองทัพอิสราเอล”
การประท้วงในลอนดอนเริ่มต้นที่สำนักงานใหญ่ของ BBC ในพอร์ตแลนด์เพลส ซึ่งถูกโจมตีในชั่วข้ามคืนโดยมีสีแดงสาดไปทั่วทางเข้าของอาคาร
ในโพสต์บนโซเชียลมีเดียในเวลาต่อมาของวันเสาร์ กลุ่มนักเคลื่อนไหว Palestine Action ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการฉาบอาคารด้วยสีแดงเลือด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในอิสราเอลผ่านการรายงานอย่างลำเอียง
นายกรัฐมนตรี ริชิ ซูนัก เรียกการขึ้นสู่อำนาจครั้งนี้ว่า “น่าขยะแขยง” และกล่าวว่า พฤติกรรมที่เป็นการข่มขู่หรือคุกคามจะ “พบกับผลบังคับเต็มที่ของกฎหมาย”
เขากล่าวว่าอิสราเอลมี “สิทธิ์ทุกประการในการปกป้องตัวเอง” จากการโจมตีของกลุ่มฮามาส แต่ย้ำว่าความปลอดภัยของพลเรือนจะต้อง “เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในใจของเรา”
ออร์ลี โกลด์ชมิดต์ โฆษกหญิงของสถานทูตอิสราเอลประจำสหราชอาณาจักรกล่าวว่าอิสราเอลไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พลเรือน แต่บอกกับวิทยุไทม์สว่า “จะมีผู้บริสุทธิ์ที่ต้องชดใช้ชีวิตอย่างน่าอนาถ แต่นี่คือสภาวะของสงคราม และเราต้องป้องกันไม่ให้ใครก็ตาม ไม่ให้ทำร้ายเราอีก”
“เราไม่มีการทะเลาะวิวาทกับชาวปาเลสไตน์ เรากำลังพยายามปกป้องตนเองจากองค์กรป่าเถื่อนของกลุ่มฮามาส ซึ่งแย่กว่าไอซิสอย่างแน่นอน”
Thousands of pro-Palestinian protesters have taken to the streets across the UK, including in London and Manchester.
In London more than 1,000 police officers were deployed as crowds marched from the BBC’s New Broadcasting House to Downing Street.
The Met Police said seven people had been arrested, including one for criminal damage and two for public order offences.
It comes a week after Hamas launched an unprecedented attack on Israel.
Glorify Hamas and you break law – terror watchdog
Fighters from the Palestinian militant group entered communities near the Gaza Strip, killing at least 1,300 people, and took scores of hostages.
More than 2,200 people have been killed in Gaza since Israel launched retaliatory air strikes and a ground offensive is also expected.
In London at the Palestine Solidarity Campaign demonstration, Palestine flags and supportive placards were waved as people chanted during the march to Downing Street.
The Met Police said as of 19:40 BST on Saturday the area around Trafalgar Square is clear and the main crowd from the march dispersed.
The force previously said there have been “small pockets of disorder” including flares, bottles and fireworks being thrown at police.
Police had earlier warned that anyone showing support for Hamas, a proscribed terrorist organisation, or deviating from the route, would face arrest.
Police appeared to detain several men in Trafalgar Square. One person allegedly threw an object at a police van at the pro-Palestinian demonstrations, near to Nelson’s Column in Trafalgar Square.
He was chased by officers and caught whilst jumping into a fountain in the square, which sparked a confrontation between protesters and Met officers – with a semi-circle formed around the man.
After a video of a second man being detained in the Whitehall area began circulating on social media, the force confirmed he had been arrested but said it was “not for anything in connection to carrying the Union Flag”.
The Metropolitan Police earlier said certain areas of central London were covered by a Section 60AA power, which requires a person to remove items such as masks that might be used to conceal their identity, until 22:00 BST. Four arrests were made under these powers.
Earlier conditions put in place under the Public Order Act to deal with the march were lifted on Saturday evening, while special conditions banning people gathering in an area of Kensington High Street – near to the Israeli embassy – remain in place.
The force said it was aware of people lighting flares or fireworks and said: “Action will be taken when we identify those in possession of/throwing them.”
Protesters on the route to Westminster could also be heard chanting “Rishi Sunak, shame on you” and the slogan “from the river to the sea, Palestine will be free”.
Earlier this week, Home Secretary Suella Braverman urged police chiefs to consider whether the slogan should be interpreted as an “expression of a violent desire to see Israel erased from the world”, possibly making it a “racially aggravated” public order offence in some contexts.
Rallies took place in a number of UK cities including Liverpool, Bristol, Cambridge, Norwich, Coventry, Edinburgh and Swansea.
Among those addressing the London gathering was former Labour leader Jeremy Corbyn. He said British politicians should not condone Israel’s bombing campaign.
Describing the march as a “day of solidarity”, the now-independent MP said: “If you believe in international law, if you believe in human rights, then you must condemn what is happening now in Gaza by the Israeli army.”
The London protest began at the BBC’s headquarters in Portland Place, which was vandalised overnight with red paint splattered over the building’s entrance.
In a social media post later on Saturday, activist group Palestine Action claimed responsibility for daubing the building in “blood red paint, symbolising their complicity in Israel’s genocide of the Palestinian people through biased reporting”.
Prime Minister Rishi Sunak called the rise “disgusting” and said that intimidating or threatening behaviour would be “met with the full force of the law”.
He said Israel had “every right to defend itself” from Hamas attacks, but stressed that civilian safety must be “paramount in our minds”.
Orly Goldschmidt, spokeswoman for the Israeli Embassy to the UK, said Israel was not targeting civilians but told Times Radio: “There will be innocent people who will pay tragically with their life, but this is a state of war and we have to prevent anyone from harming us again.”
“We have no quarrel with the Palestinian people. We are trying to protect ourselves from the Hamas barbaric organisation, which is exactly if not worse than Isis.”
By BBC News
