ปาเต็ก ฟิลลิปป์, เจนีวา นาฬิกา Watches and Wonders Geneva 2024 9 เมษายน 2024

ปาเต็ก ฟิลลิปป์เปิดตัวนาฬิกา 11 รุ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากการผสมผสานกันของความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่ล้ำเลิศร่วมกับสไตล์ที่โดดเด่น 

ในวาระของ Watches and Wonders Geneva 2024 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้นำเสนอนวัตกรรมด้านเทคนิค ผ่านการสร้างสรรค์นาฬิกาเวิลด์ไทม์คอลเล็กชันปัจจุบัน โดยนำเสนอฟังก์ชันการแสดงวันที่ซึ่งตรงกันกับเวลา ณ ประเทศท้องถิ่น (Local time) เป็นครั้งแรก อีกทั้งความงดงามของนาฬิกาโมเดลใหม่นี้ยังสะท้อนผ่านสายนาฬิการูปแบบโซ่ อันเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ของนาฬิกาตระกูลโกลเด้น อิลิปส์ โดยได้สะท้อนความงดงามผ่านสายนาฬิการูปทรงโซ่ ที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการนำคอลเล็กชันนาฬิกาปาเต็ก ฟิลลิปป์ หลากหลายกลุ่ม กลับมาตีความใหม่อีกครั้งอย่างประณีตครอบคลุมในรูปแบบของนาฬิกาสำหรับการเดินทาง นาฬิการะบบปฏิทิน และนาฬิกาโมเดลสปอร์ตที่หรูหราสง่างาม พร้อมการนำเสนอคอลเล็กชันนาฬิกาสุภาพสตรีทเวนตี้ โฟร์ ซึ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีในปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทได้ประกาศถึงการพัฒนาที่สำคัญสองด้านสำหรับแนวทางของมาตรฐานการผลิตนาฬิกา ภายใต้ ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซีล (Patek Phillippe Seal) และ การขยายระยะเวลาการรับประกันสากลสำหรับนาฬิกาใหม่ให้ครอบคลุมจากระยะเวลา 2 ปีเป็น 5 ปี  

อองตวน นอร์เบิร์ต เดอ ปาเต็ก (Antoine Norbert de Patek) ผู้นำด้านการสร้างสรรค์และผู้หลงใหลในความงดงาม ฌอง เอเดรียน ฟิลลิปป์  (Jean Adrien Philippe) อัจฉริยะด้านการรังสรรค์เครื่องบอกเวลา ตั้งแต่ปี 1839 ที่มีการก่อตั้งบริษัท บริษัทนาฬิกาแห่งเจนีวาได้พัฒนาสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีศิลปะความประณีตงดงามร่วมกับความเพรียบพร้อมสมบูรณ์ของกลไก ตั้งแต่ปี 1932 ครอบครัวสเติร์นได้รักษา “ประเพณีแห่งนวัตกรรมการผลิตนาฬิกา” ที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ ดังที่เห็นได้จากสิทธิบัตรกว่าหนึ่งร้อยสิทธิบัตร และกลไกการทำงานถึง 56 กลไก ซึ่งออกแบบและผลิตจากโรงงานของบริษัทเองทั้งหมด นอกจากนั้นปาเต็ก ฟิลลิปป์ยังมีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในด้านการออกแบบที่ไร้ขีดจำกัด อันเป็นแรงบันดาลใจให้กับนาฬิกาที่เป็นเอกลักษณ์จำนวนมากในทุกๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น

นาฬิกากลุ่มคอมพลิเคชั่นที่มีกลไกความซับซ้อนสูง ไปจนถึงนาฬิกาประดับด้วยอัญมณี และนาฬิกาที่มีรูปแบบคลาสสิคเก๋ไก๋ สู่นาฬิกาสปอร์ตหรูหรา งดงาม การนำเสนอกลุ่มความงดงามเป็นเลิศใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2024 นี้ ยังคงไว้ซึ่งการสร้างสรรค์ร่วมกับความก้าวหน้าด้านเทคนิคในรูปแบบของนาฬิกาที่มาพร้อมกับการบอกเวลาหลายโซนเวลา อีกทั้งเป็นการกลับมาของสายนาฬิการูปทรงโซ่อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคอลเล็กชันโกลเด้น อิลิปส์ และนาฬิกาโมเดลสำคัญที่มีการตีความใหม่ ร่วมกับฟังก์ชั่นการทำงานและการประดับตกแต่งภายนอกที่งดงามหลากหลาย

นาฬิกาเวิลด์ไทม์รุ่นใหม่ที่แสดงวันที่ของเวลาท้องถิ่น

นาฬิกาปาเต็ก ฟิลลิปป์รุ่น 5330 ซึ่งเป็นนาฬิการุ่นลิมิตเต็ท เอดิชั่นนำเสนอครั้งแรกในงานนิทรรศการอันยิ่งใหญ่ “Watch Art” Tokyo 2023  ปัจจุบันนี้ได้เข้ามารวมอยู่ในคอลเล็กชันปกติของบริษัท  โดยนาฬิกาเวิลด์ไทม์รุ่นใหม่นี้โดดเด่นด้วยการจดสิทธิบัตรเป็นครั้งแรกของโลก ด้วยการนำเสนอฟังก์ชันที่มีการแสดงผลของวันที่เป็นไปตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นฟังก์ชันการทำงานที่มีประโยชน์และใช้งานได้ง่าย ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้พัฒนากลไกทำงานใหม่ คาลิเบอร์ 240 HU C กลไกไขลานอัตโนมัติที่ประกอบด้วยนวัตกรรมของระบบดิฟเฟอเรนเชียล ซึ่งแสดงวันที่บริเวณรอบหน้าปัดด้วยเข็มนาฬิกาจากศูนย์กลาง กระจกใสปลายเข็มรูปทรงค้อนสีแดง นาฬิกาเวิลด์ไทม์ใหม่ รุ่น 5330G-001 (World Time Reference 5330G-001) ตัวเรือนทองคำขาว หน้าปัดสีน้ำเงิน-เทาโอพะลีน กลางหน้าปัดตกแต่งด้วยลวดลาย “คาร์บอน”

สายนาฬิการูปทรงโซ่ใหม่ของนาฬิกาโกลเด้น อิลิปส์ที่เป็นตำนาน 

นาฬิกาโกลเด้น อิลิปส์ซึ่งเปิดตัวในปี 1968 เป็นนาฬิกาที่มีรูปทรงตัวเรือนโดดเด่นเป็นที่รู้จักกันดี มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะในคอลเล็กชันของปาเต็ก ฟิลลิปป์ จนกระทั่งเมื่อต้นทศวรรษ 1980 นาฬิกาโมเดลนี้ได้นำเสนอออกมาในรูปแบบสายนาฬิกาหนัง ควบคู่กับตัวเลือกของสายนาฬิการูปทรงโซ่ หรือสายนาฬิกาข้อมือที่ทำจากโลหะที่มีมูลค่า ปัจจุบันนี้ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้นำรูปแบบเดิมกลับมานำเสนอในนาฬิกาโกลเด้น อิลิปส์ รุ่น 5738/1R-001 (Golden Ellipse Reference 5738/1R-001) ใหม่ พร้อมด้วยสายนาฬิการูปทรงโซ่ โรสโกลด์ที่หรูหรางดงาม รับกับรูปทรงข้อมือ สวมใส่สบาย สะท้อนความประณีตงดงามของตัวเรือน  ภายใต้ 15 ปีแห่งการพัฒนา สายนาฬิกาใหม่นำเสนอตัวล็อคสลักลวดลาย พร้อมตำแหน่งการปรับ 3 ระดับ (ซึ่งง่ายมากในการปรับให้สั้นลง หรือยาวขึ้น) ร่วมกับรูปแบบโครงสร้างที่ทันสมัยได้รับสิทธิบัตร จึงทำให้สายนาฬิการูปทรงโซ่คลาสสิคนี้สามารถนำกลับมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้ง การประกอบและตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายล้วนแล้วแต่รังสรรค์ด้วยมือ อันเป็นทักษะความชำนาญอันยาวนานของช่างฝีมือผู้ผลิตสายนาฬิกาแบบโซ่  สายนาฬิกาใหม่นำเสนอเพื่อเสริมสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะให้กับนาฬิกา

โกลเด้น อิลิปส์ รุ่น 5788/1R-001 หน้าปัดสีดำเข้มกระจายแสง พร้อมมาร์คเกอร์บอกเวลาและเข็มนาฬิการูปทรงเพรียวบางทำจากโรสโกลด์ ที่โดดเด่นชัดเจน ร่วมกับคาลิเบอร์ 240 กลไกไขลานอัตโนมัติ ขนาดบางพิเศษ ส่งผลให้นาฬิกาเรือนนี้มีความพิเศษของการเป็นนาฬิกาที่บางที่สุดในนาฬิกาคอลเล็กชันทั่วไปของปาเต็ก ฟิลลิปป์

การเปลี่ยนแปลงอันประณีตงดงามของนาฬิกาสำหรับการเดินทาง

ตั้งแต่มีการแบ่งโลกออกเป็น 24 โซนเวลาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้ก้าวเคียงคู่ไปพร้อมๆ กับการเติบโตอันรวดเร็วของการเดินทางข้ามทวีป ด้วยการนำเสนอนาฬิกาโมเดลซึ่งตอบสนองนักเดินทางที่เดินทางไปยังสถานที่ที่มีเวลาแตกต่างกันทั่วโลก เมื่อทศวรรษที่ 1930 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้นำเสนอนาฬิกาเวิลด์ไทม์ซึ่งมีชื่อเสียง ในขณะที่ปัจจุบันนี้ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้สร้างสรรค์นาฬิกาดังกล่าวให้แสดงวันที่ของเวลาท้องถิ่น เช่นเดียวกับเมื่อปลายทศวรรษที่ 1950 ได้มีการเปิดตัวระบบแทรเวล ไทม์ แบบสองไทม์โซน หลังจากนั้นระบบดังกล่าวก็ได้นำมารังสรรค์อยู่ในนาฬิกาหลายรูปแบบ ซึ่งในวันนี้ปาเต็ก ฟิลลิปป์จะนำเสนอนาฬิกา 3 รุ่นใหม่ที่จะมาเพิ่มคุณค่าและความสำคัญโดดเด่นให้กับนาฬิกากลุ่มนี้

นาฬิกาอลาร์มแทรเวล ไทม์ (ปี 2019) หัวใจสำคัญของนาฬิกาเพื่อการเดินทางในสไตล์นักบินที่สะท้อนความสปอร์ตหรูหรา ได้กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชั่นใหม่ พร้อมการรังสรรค์ในรูปแบบสีทูโทน โดยมีตัวเรือนโรสโกลด์ พร้อมแท่นปุ่มกดทองคำขาวทั้งสี่ปุ่ม นาฬิกาอลาร์มแทรเวล ไทม์ รุ่น 5520RG-001 (Alarm Travel Time Reference 5520RG-001) ยังโดดเด่นด้วยหน้าปัดทูโทนสองสี ได้แก่ สีเทากระจายแสง และสีเทาเข้มกระจายแสง ร่วมกับตัวเลขบอกเวลาแบบอารบิค และเข็มรูปทรงดาบทองคำขาวสีเทาเข้มเคลือบสารเรืองแสง ทำงานด้วยคาลิเบอร์ AL 30-660 S C FUS กลไกไขลานอัตโนมัติ พร้อมสิทธิบัตรของการปลุกเตือน 4 ฉบับ กลไกความซับซ้อนแกรนด์ คอมพลิเคชั่น ได้ผนวกระบบแทรเวล ไทม์ ที่แสดงเวลาโซนที่สอง เข้ากับกลไกการปลุกเตือน 24 ชั่วโมง ด้วยกลไกการตีด้วยค้อนที่ให้เสียงแบบคลาสสิค นาฬิการุ่นนี้ได้รวมอยู่กับนาฬิกาคอลเล็กชัน รุ่น 5520P-001 ที่ทำจากแพลทินัม หน้าปัดสีดำเข้ม กระจายแสง

หลังจากที่นาฬิกาอควานอต แทรเวล ไทม์ กลไกไขลานอัตโนมัติ เคยนำเสนอออกมาในเวอร์ชั่นสตีล และโรสโกลด์ ครั้งนี้เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในเวอร์ชั่นทองคำขาว พร้อมหน้าปัดสีน้ำเงิน-เทาโอพะลีน ที่รับเข้ากันกับสายนาฬิกาวัสดุคอมโพสิต ความกลมกลืนของสีช่วยเสริมความลำลอง สวยงามทันสมัยของนาฬิกาได้เป็นอย่างดี นาฬิกาอควานอต แทรเวล ไทม์ รุ่น 5164G-001 (Aquanaut Travel Time Reference 5164G-001) นำเสนอพร้อมกับคาลิเบอร์ 26-330 S C FUS กลไกไขลานอัตโนมัติ โดยมีระบบแสดงโซนเวลาที่สอง มองเห็นได้ชัดเจนและง่ายในการใช้งาน เพียงแค่กดปุ่ม 1 ปุ่มที่อยู่ตำแหน่งด้านซ้ายของกรอบตัวเรือนเพื่อให้เข็มชั่วโมงบอกเวลาท้องถิ่น (เข็มทึบ) เดินหน้าหรือถอย

หลัง ซึ่งจะทำให้เวลาเปลี่ยนแปลงไป 1 ชั่วโมง โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ต่ออัตราความเที่ยงตรงของนาฬิกาเลย วันที่จะแสดงด้วยเข็มบนหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาคู่ไปกับการแสดงเวลาท้องถิ่น ในปี 2021 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้สร้างสรรค์นาฬิกาเพื่อการเดินทางสำหรับกลุ่มอควานอต ด้วยนาฬิกากลไกควอตซ์ที่มีฟังก์ชันแทรเวล ไทม์ พร้อมระบบการปรับตั้งด้วยเม็ดมะยมที่ใช้งานง่าย นาฬิกาควอตซ์ดังกล่าวเคยเปิดตัวด้วยเวอร์ชันตัวเรือนโรสโกลด์ ขอบหน้าปัดฝังเพชร หน้าปัดและสายนาฬิกาสีขาว ซึ่งครั้งนี้ ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ได้นำเสนอ นาฬิกาอควานอต แทรเวล ไทม์ รุ่น 5164G-001 (Aquanaut Travel Time Reference 5164G-001) ในเวอร์ชั่นใหม่โรสโกลด์ ไม่ประดับเพชร ดึงดูดสายตาด้วยหน้าปัดสีน้ำเงิน-เทาโอพะลินที่สลักลวดลายอควานอต กลมกลืนกับสายนาฬิกาวัสดุคอมโพสิต พร้อมด้วยหัวเข็มขัดบานพับ ยึดด้วยตัวล้อคอิสระ 4 ตัว การตกแต่งด้วยขั้นตอนสุดท้ายนำเสนอผ่านการขัดเงาที่ตัดกับการขัดแบบซาติน เสริมสร้างความโดดเด่นลายเส้นของตัวเรือนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 38.8 มิลลิเมตร

นาฬิการูปแบบใหม่ในกลุ่มนาฬิการะบบปฏิทิน

ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar) อันล้ำค่า ที่มีนาฬิกาแกรนด์คอมพลิเคชั่นคลาสสิคดั้งเดิมอันเป็นเลิศ หรือระบบปฏิทินรายปีซึ่งบริษัทได้จดสิทธิบัตรในปี 1996 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้นำเสนอนาฬิการะบบปฏิทินที่หลากหลาย ซึ่งมีความโดดเด่นของรูปแบบภายนอก และโหมดการแสดงผลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ต่อไปนี้นาฬิกากลุ่มนี้จะยิ่งเพิ่มความครอบคลุมและน่าสนใจมากขึ้น

ในปี 2021 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้เปิดตัวนาฬิการะบบปฏิทินถาวรใหม่ที่มีการแสดงผลของวันที่ วัน และเดือนในช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดยนำเสนอในโมเดลตัวเรือนแพลทินัม หน้าปัดสีน้ำเงิน ไล่เฉดสีดำสู่รอบนอก ครั้งนี้บริษัทได้นำนาฬิกาโมเดลแพลทินัมกลับมาสร้างสรรค์อีกครั้งโดยได้รับแรงบันดาลใจจากในอดีต ด้วยการนำเสนอหน้าปัดโรสโกลด์ประกายโอพะลีน พร้อมหลักบอกเวลาชั่วโมงรูปทรงบาตองเจียระไนเหลี่ยม และเข็มบอกเวลารูปทรงบาตองเจียระไนเหลี่ยม ทองคำขาวสีเทาเข้ม คาลิเบอร์ 31-260 PS QL กลไกไขลานอัตโนมัติที่บางเป็นพิเศษเสริมให้นาฬิการุ่นนี้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ร่วมกับ 3 สิทธิบัตร ร่วมกับจานเหวี่ยงขนาดเล็กทำจากแพลทินัมเพื่อช่วยเพิ่มกำลังในการหมุน นาฬิกาอินไลน์ เพอร์เพคชวล คาเลนดาร์ รุ่น 5236P-010 (In-line perpetual calendar Reference 5236P-010) โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีน้ำเงิน ไล่เฉดสีดำสู่รอบนอก ได้เข้ามาร่วมอยู่ในนาฬิกาเวอร์ชันแพลทินัมของคอลเล็กชันทั่วไป    

นาฬิการุ่น 5160/500G-001 เวอร์ชั่นทองคำขาว ซึ่งเปิดตัวในปี 2016 ที่มาพร้อมฝาหลังกระจกแซฟไฟร์คริสตัลป้องกันด้วยฝากันฝุ่นบานพับ ขาตัวเรือนทรงตรงพร้อมระบบปฏิทินถาวรที่มีเข็มแสดงวันที่แบบตีย้อนกลับสไตล์ออฟฟิสเซอร์ส่งผลให้นาฬิกาโมเดลนี้เป็นหนึ่งในโมเดลซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเรือนและส่วนกลางของ

หน้าปัดได้รับการแกะสลักด้วยมือทั้งหมด โดยครั้งนี้ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ได้นำนาฬิกาดังกล่าวกลับมาตีความใหม่อีกครั้งในโมเดลโรสโกลด์ หน้าปัดทองโอพะลีนสีเงิน ประกอบด้วยตัวเลขรูปทรงบริเกต์ทองคำขาวร่วมกับสีดำ และเข็มรูปทรงลูกแพร์ ทองคำออกซิไดสีดำ ทำงานผ่านคาลิเบอร์ 26-330 S QR กลไกไขลานอัตโนมัติ นาฬิกาแรร์ แฮนคาร์ฟ เรโทรเกรด เพอร์เพคชวล คาเลนดาร์ รุ่น 5160/500R-001 (Rare Handcrafts Retrograde Perpetual Calendar Reference 5160/500R-001) ได้เข้ามาแทนที่นาฬิกาเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ที่ทำด้วยทองคำขาว

นาฬิกาแอนนวล คาเลนดาร์ รุ่น 5396 สำหรับสุภาพบุรุษ ซึ่งเปิดตัวในปี 2006 พร้อมด้วยช่องหน้าต่างแสดงผลคู่ของวัน/เดือน ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และช่องหน้าต่างแสดงวันที่ ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมหน้าปัดย่อยแสดงเวลา 24 ชั่วโมง ร่วมกับการแสดงผลข้างขึ้น-ข้างแรม ได้กลายมาเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก โดยปัจจุบันนี้ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ได้นำมาสร้างสรรค์เป็นเวอร์ชั่นใหม่ในรูปแบบทองคำขาว พร้อมหน้าปัดสีน้ำเงินกระจายแสง สีดำไล่เฉดบริเวณรอบขอบ สะท้อนความเปล่งประกายด้วยหลักชั่วโมงทำจากเพชรเจียระไนทรงบาร์เกต (0.26 กะรัต) การตัดกันที่โดดเด่นนี้เสริมสร้างให้หน้าปัดอ่านได้ง่ายและดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง ร่วมกับเข็มบอกเวลาทองคำขาวรูปทรงดอร์ฟินเจียระไนเหลี่ยม และเข็มวินาทีแบบกวาดรูปทรงเรียวบาง สายนาฬิกาหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้ม ที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสีหน้าปัด เคียงคู่กับหัวเข็มขัดบานพับทองคำขาว นาฬิกาแอนนวล คาเลนดาร์ รุ่น 5396G-017 (Annual Calendar Reference 5396G-017) รุ่นใหม่ประกอบด้วยคาลิเบอร์ 26-330 S QA LU 24H กลไกไขลานอัตโนมัติ

แนวคิดใหม่ของนาฬิกาสุภาพสตรีสไตล์สปอร์ตหรูหรา ร่วมกับเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง

ปัจจุบันนี้ปาเต็ก ฟิลลิปป์นำเสนอนาฬิกาคอลเล็กชันปกติที่หลากหลายแตกต่างกันประมาณ 150 รุ่น ซึ่งผลิตออกมาเป็นจำนวนไม่มาก ตั้งแต่ประมาณ 10 เรือนไปถึงกว่าหลายร้อยเรือน ในทุกๆ ปี เป้าหมายของปาเต็ก ฟิลลิปป์เพื่อให้มั่นใจได้ว่านาฬิกาที่มีความหลากหลายรุ่นได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อสอดคล้องและสมดุลกับทุกๆ กลุ่มตลาด ดังนั้นในปี 2024 บริษัทจึงได้เฉลิมฉลองโมเดลอื่นของคอลเล็กชัน ด้วยการนำเสนอนาฬิกาที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์หน้าปัดใหม่ วัสดุตัวเรือนใหม่ การผสมผสานของสีใหม่ และการประดับอัญมณีอันทรงคุณค่าใหม่

นาฬิกาทเวนตี้ โฟร์ ในรูปแบบตัวเรือนสตีล ประดับตกแต่งด้วยเพชร ซึ่งเปิดตัวในปี 1999 เป็นคอลเล็กชันแรกของ  ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ที่อุทิศทั้งหมดให้กับสุภาพสตรี โดยได้รับความสนใจและเป็นที่ชื่นชอบด้วยรูปแบบความสง่างดงามไร้กาลเวลาที่เหมาะสมในทุกวาระโอกาส  ในปี 2018 นาฬิกากลุ่มนี้ได้สร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบนาฬิกาควอตซ์โมเดล “manchette” (หรือโมเดลสไตล์ข้อมือ) นำเสนอด้วยตัวเรือนทรงกลมสำหรับนาฬิกาทเวนตี้ โฟร์ ออโตเมติก ใหม่ และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปี ของนาฬิกาสุภาพสตรีที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง ปาเต็ก     ฟิลลิปป์จึงได้นำเสนอเวอร์ชั่นใหม่ของ “manchette” ในโมเดลโรสโกลด์ หน้าปัดที่มีความงดงามประณีตสำหรับ

นาฬิกาทเวนตี้ โฟร์ รุ่น 4910/1201R-010 (Twenty-4 Reference 4910/1201R-010) สลักลวดลายนูนของคลื่นแบบวงกลม ก่อนที่จะเคลือบด้วยแลคเกอร์ใสหลายชั้นด้วยความละเอียด โดยที่ชั้นแรกจะเป็นการเคลือบด้วยสี

ม่วงอ่อน จากนั้นจึงเคลือบด้วยสีใสหลายชั้น เพื่อให้เกิดการสะท้อนเห็นแสงและความลึก

นาฬิกานอติลุส ฟลายแบค โครโนกราฟ กลไกไขลานอัตโนมัติ รุ่น 5980 เปิดตัวในปี 2006 โดยในปี 2010 เป็นต้นมาปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้นำเสนอนาฬิการุ่นนี้ในเวอร์ชั่นโรสโกลด์ หรือทูโทนของสตีลและโรสโกลด์ พร้อมด้วยเข็มนาฬิการูปทรงบาตองกลมมนและหลักบอกเวลารูปทรงบาตองที่โดดเด่นจากทองคำขาวเคลือบสารเรืองแสงสีขาว สีของหน้าปัดมีความงดงามเคียงคู่กับสายนาฬิกาที่ให้มาสองสาย คือสายหนังลูกวัวสีน้ำเงิน-เทา สลักลวดลาย “เดนิม” ตัดกับตะเข็บเย็บด้วยมือสีขาว ในขณะที่สายนาฬิกาอีกสายทำจากวัสดุคอมโพสิต ลวดลายผ้า สีน้ำเงิน-เทา ตัดกับตะเข็บเย็บสีขาว โดยที่หน้าปัดนาฬิกาสร้างสรรค์มาให้มีพื้นที่กว้างขึ้นเล็กน้อย นาฬิกานอติลุส ฟลายแบค โครโนกราฟ รุ่น 5980/60G-001 (Nautilus Flyback Chronograph Reference 5980/60G-001) ติดตั้งด้วยคาลิเบอร์ CH 28-520 C กลไกไขลานอัตโนมัติ แสดงผลโครโนกราฟด้วยโมโนเคาร์เตอร์ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา

หลังจากที่มีการนำเสนอระบบปฏิทินประจำปีสำหรับคอลเล็กชันอควานอตในเดือนมีนาคมปี 2023 และนาฬิกามินิท รีพีทเตอร์ โชแอลยอรี ในเดือนพฤศจิกายนปี 2023 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ยังคงสานต่อที่จะเพิ่มความโดดเด่นสมบูรณ์ให้กับกลุ่มนาฬิกาอควานอตด้วย นาฬิกาอควานอต ลูเช่ โชแอลยอรี รุ่น 5268/461G-001 (Aquanaut Luce Haute Joaillerie Reference 5268/461G-001) ทองคำขาวประดับเพชรและแซฟไฟร์สีน้ำเงิน ฝังอัญมณีแบบ “สโนว์” และ แบบ “บาเก็ต” ในขณะที่การฝังอัญมณีแบบตารางบนหน้าปัด ทำให้นึกถึงลวดลายอควานอตของคอลเล็กชัน อควานอต ขอบหน้าปัดนาฬิการูปทรงแปดเหลี่ยมกลมมน ประดับแซฟไฟร์รูปทรงบาเก็ตที่ค่อยๆ ไล่เฉดสีจากสีน้ำเงินอ่อนไปจนถึงสีน้ำเงินเข้ม ความกลมกลืนที่ละเอียดอ่อนนี้ต่อเนื่องไปจนถึงสายนาฬิกาวัสดุคอมโพสิตที่มีเฉดสีน้ำเงินเข้มใหม่ นาฬิกาติดตั้งด้วยคาลิเบอร์ 26-330 S กลไกไขลานอัตโนมัติ ที่สามารถมองผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์คริสตัล

คอลเล็กชันที่สมบูรณ์แบบของงานฝีมือซึ่งหาได้ยาก 

เช่นเดียวกับปีที่ผ่านๆ มา ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้เปิดตัวคอลเล็กชันอันโดดเด่นเป็นเลิศของนาฬิกาที่มีความเป็นเอกลักษณ์หรือนาฬิการุ่นลิมิตเต็ท เอดิชั่น (นาฬิกาตั้งโต๊ะทรงโดม นาฬิกาตั้งโต๊ะ นาฬิกาพก และนาฬิกาข้อมือ) ที่แสดงถึงศิลปะโดยที่ปาเต็ก ฟิลลิปป์จะจัด“การแสดงนิทรรศการงานฝีมือที่หาได้ยาก 2024” เพื่อให้สาธารณชนได้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ ตั้งวันที่ 13 – 27 เมษายน 2024  เวลา 11.00 – 18.00 นาฬิกา (รอบสุดท้ายที่เปิดให้เข้าชมคือ เวลา17.00 นาฬิกา) ที่ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซาลอน เจนีวา เลขที่ 41 ถนนโรน โดยในงานนิทรรศการนี้จะมีการนำเสนอผลงาน

งานฝีมือที่หาได้ยากที่สุดและประณีตงดงามที่สุด เช่น การระบายสีรูปภาพขนาดเล็กที่มีการเคลือบลงยาอินาเมล การเคลือบลงยาอินาเมลแบบกรองด์เฟอด้วยเทคนิคคลัวซอนเน่ การแกะสลักด้วยมือ และการฝังประดับบนไม้ขนาดเล็ก ที่ได้รวบรวมไว้ถึง 82 ผลงาน ผู้ต้องการเข้าชมงานสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ patek.com ก่อนที่จะเข้าเยี่ยมชมงาน

จากนั้น “การแสดงนิทรรศการงานฝีมือที่หาได้ยาก 2024” จะไปจัดแสดงในวันที่ 7 – 16 มิถุนายน ที่ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซาลอน ถนนบอนด์ กรุงลอนดอน การเปิดตัวอันยิ่งใหญ่ในสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งเพิ่งได้รับการปรับปรุงบูรณะ จะเป็นโอกาสเฉพาะพิเศษสำหรับผู้เยี่ยมชมที่จะได้ชื่นชมสิ่งสร้างสรรค์ที่โดดเด่นเป็นเลิศทั้งหมดก่อนที่จะนำส่งคืนกลับไปยังสถานที่สะสมส่วนตัวทั่วโลกต่อไป

สองวิวัฒนาการหลักสำหรับตราประทับปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซีล (Patek Phillipe Seal)

ตราประทับปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซีล นำเสนอครั้งแรกในปี 2009 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ด้านคุณภาพสำหรับนาฬิกากลไกการทำงานที่อธิบายชัดเจนถึงแก่นแท้และความโดดเด่นของคุณภาพปาเต็ก ฟิลลิปป์ ตราประทับนี้ได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยครอบครัวสเติร์น เพื่อเป็นตราคุณภาพสำหรับทุกสิ่งที่จะพัฒนาต่อเนื่องไป ตลอดจนเป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีซึ่งบริษัทให้ความสำคัญ ด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าวที่ปาเต็ก ฟิลลิปป์ดำรงไว้ บริษัทจึงสร้างให้เกิดวิวัฒนาการที่สำคัญสองประการสำหรับตราประทับปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซีล

เกณฑ์ที่เข้มงวดเพื่อนำไปสู่อัตราความเที่ยงตรง

อัตราความเที่ยงตรงของนาฬิกาปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้มีการตรวจสอบในหลายช่วงระหว่างขั้นตอนการผลิต เริ่มต้นจากกลไกการทำงานที่ยังไม่ได้ประกอบเข้าในตัวเรือนจนถึงนาฬิกาที่สำเร็จสมบูรณ์ ตั้งแต่ปี 2009 การวัดอัตราความเที่ยงตรงสุดท้ายดำเนินการโดยการจำลองเกี่ยวกับเคลื่อนไหว ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐานความเที่ยงตรงต่อไปนี้ สำหรับคาลิเบอร์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น อัตราความเที่ยงตรงต้องอยู่ภายในช่วง -3 และ +2 วินาทีต่อ 24 ชั่วโมง สำหรับคาลิเบอร์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 20 มิลลิเมตร อัตราความเที่ยงตรงต้องอยู่ภายในช่วง -5 และ +4 วินาทีต่อ 24 ชั่วโมง สำหรับนาฬิกาที่มีกลไกตูร์บิยอง อัตราความเที่ยงตรงต้องอยู่ภายในช่วง  –1 และ +2 วินาทีต่อ 24 ชั่วโมง (สำหรับนาฬิกากลุ่มสุดท้าย ค่าความคลาดเคลื่อนสูงสุดระหว่างอัตราเฉลี่ยของนาฬิกาที่ตำแหน่งการวัดทั้ง 6 ตำแหน่ง และอัตราในแต่ละตำแหน่งต้องไม่เกิน 4 วินาที ต่อ 24 ชั่วโมง) ดังนั้นนาฬิกาทุกเรือนที่ประกอบด้วย สายใยสไปโรแมกซ์ (Spiromax®) ทำจากซิลินวาร์ (Silinvar®)   หรือสายใยบริเกต์ต้อง

สอดคล้องกับช่วงการยอมรับได้อันเข้มงวดที่ –1 และ +2 วินาทีต่อ 24 ชั่วโมง ความก้าวหน้าเหล่านี้เป็นผลจากการพัฒนาศูนย์กลางของสายใยสไปโรแมกซ์ที่สมบูรณ์ ร่วมกับความก้าวหน้าในด้านเวลาที่เที่ยงตรงซึ่งปาเต็ก ฟิลลิปป์ประสบความสำเร็จ นาฬิกากลไกตูร์บิยองที่เป็นไปตามช่วงของค่าความคลาดเคลื่อนอันเข้มงวดนี้ มาพร้อมกับใบรับรองที่บริษัทออกให้แยกแต่ละใบสำหรับนาฬิกาแต่ละเรือน และเป็นไปตามข้อกำหนดอัตราความเที่ยงตรงในตำแหน่งการวัดทั้ง 6 ตำแหน่ง

เกณฑ์มาตรฐานเดียวกันสำหรับการกันน้ำ

เพื่อให้การนำเสนอข้อมูลแก่ลูกค้าเป็นไปในรูปแบบเดียวกันและอธิบายได้ชัดเจน ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้ตัดสินใจนำเสนอมาตรฐานการกันน้ำเดียวกันใหม่ โดยกำหนดไว้ที่ระดับ 30 เมตรสำหรับนาฬิกาทุกเรือนที่ได้รับการรับรองว่ากันน้ำได้ โดยการทดสอบในอากาศและใต้น้ำ โดยนำนาฬิกาแช่ไว้ในน้ำที่มีแรงดัน 3 บาร์ (เทียบเท่าที่ระดับความลึก 30 เมตร) มาตรฐานนี้รับรองประสิทธิภาพการทำงานในระดับเดียวกันสำหรับนาฬิกาทุกโมเดลที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้นแล้วยังช่วยในการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายสำหรับลูกค้าเมื่อสวมใส่นาฬิกาใช้งานกับกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ล้างมือ อาบน้ำ ว่ายน้ำ หรือกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ รวมถึงการดำน้ำถึงระดับความลึก 30 เมตรซึ่งตรงกับส่วนมากที่ใช้งานจริง

การรับประกันสากล 5 ปี สำหรับนาฬิกาใหม่  

งานแสดง Watches and Wonders Salon 2024 ยังเป็นโอกาสของปาเต็ก ฟิลลิปป์ ที่จะประกาศถึงวิวัฒนาการที่เกี่ยวกับการรับประกันสากล สำหรับนาฬิกาปาเต็ก ฟิลลิปป์ ใหม่ทุกเรือนที่ขายในวันที่ หรือตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ระยะเวลาการรับประกันนาฬิกาจะขยายจาก 2 ปี ไปเป็นระยะเวลา 5 ปี จากวันที่ซื้อนาฬิกา นอกจากโอกาสใหม่ที่นำเสนอให้แก่ลูกค้าแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะตระหนักถึงแนวทางของตราประทับปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซีล ที่ได้รวบรวมคำสัญญาจากเครือข่ายบริการลูกค้าสากล ซึ่งระบุถึงการให้บริการ การซ่อมแซม และการฟื้นฟูนาฬิกาทุกเรือนที่ผลิตโดยบริษัทตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทในปี 1839 โดยสรุปทุกๆ อย่างได้มีการจัดเตรียมไว้เพื่อสร้างความมั่นใจได้ถึงความน่าเชื่อถือระยะยาวของนาฬิกาเหล่านี้ที่ได้รับการออกแบบและผลิต เพื่อส่งต่อให้กับรุ่นต่อๆ ไปในอนาคต

@patekphilippe Bringing everyone together to experience the superb technical expertise combined with outstanding style from the 9 timepieces that debuted at Watches and Wonders 2024, direct from Geneva. At the event, the current collection of World Time watches appeared. that offers the function of displaying the date that matches the local time of your location for the first time Moreover, the beauty of this new model is reflected in the chain-style watch strap. This marks the grand return of the Golden Ellipse family of watches. In addition, various watch collections have been carefully reinterpreted in the form of travel watches. Perpetual Calendar clock and elegant, sporty model watches. Along with the presentation of the Twenty-4 women’s watch collection, which celebrates its 25th anniversary this year, the company also announced two important developments in its approach to watchmaking standards. Patek Phillippe Seal and the extension of the international warranty period for new watches from 2 years to 5 years.

 

Patek Philippe, Geneva Watches and Wonders Geneva 2024 9 April 2024

Patek Philippe unveils eleven unique new alliances of technical prowess and style
On the occasion of the Watches and Wonders Geneva 2024 Salon, Patek Philippe is innovating in technical terms by endowing its regular collection with the first World Time watch to feature a date display synchronized with local time. The manufacture also stands out by the elegance of the new models, as illustrated by the grand return of the chain-style bracelet in the Golden Ellipse line. In addition, the vast array of Patek Philippe collections has seen subtle new interpretations in the areas of the travel watches, the calendar watches and the elegantly sporty models, as well as in the Twenty~4 ladies’ collection, which this year celebrates its 25th anniversary. Furthermore, the manufacture is announcing two important developments in the Directives of the Patek Philippe Seal, together with an extension of the international warranty pertaining to new watches from two years to five years.

Antoine Norbert de Patek, creative force and lover of beauty. Jean Adrien Philippe, horological genius. From the time of its foundation in 1839, the Genevan manufacture has devoted itself to creating timepieces whose aesthetic refinement reflects their mechanical perfection. Since 1932, the Stern family has perpetuated this “tradition of innovation”, embodied today in more than one hundred patents and a range of 56 movements designed and built entirely in the manufacture’s own workshops. Patek Philippe is also distinguished by its timeless designs, which have inspired a large number of iconic timepieces in every segment –from the Grand Complications to the jewelry watches, and from the classically chic to the elegantly sporty. The splendid array of new introductions presented in the spring of 2024 maintains the creative momentum, with a major technical advance in the area of watches with multiple time zones, the arrival of a new, exclusive chain-style bracelet in the Golden Ellipse collection and nine fresh interpretations of flagship models, with a wide variety of functions and external decors.

The new generation of the World Time, with a date display synchronized with local time
Launched as a limited edition at the Patek Philippe Grand Exhibition “Watch Art” Tokyo 2023, Reference 5330 is now entering the manufacture’s regular collection. This new-generation World Time is distinguished by a patented world first: a date display synchronized with local time. To offer this useful and user-friendly function, Patek Philippe developed a new movement, the self-winding caliber 240 HU C, featuring an innovative differential system indicating the date on the periphery of the dial by means of a center hand in transparent glass with a red hammer-head-style tip. The new World Time Reference 5330G-001 in white gold has a dial in blue-gray opaline, its center adorned with a “carbon” motif.

A new chain-style bracelet for the legendary Golden Ellipse
Instantly recognizable by the shape of its case, the Golden Ellipse, launched in 1968, has made its mark as a style icon in the Patek Philippe collections. Up until the early 1980s, this model proposed, alongside the leather straps, a choice of chain bracelets or link bracelets in precious metals. Patek Philippe is now reviving that tradition by unveiling the new Golden Ellipse Reference 5738/1R-001 on an elegant chain- style bracelet in rose gold that follows the contours of the wrist and offers superb comfort while complementing the finesse of the case. The product of 15 years’ development, this new bracelet, secured
by an engraved clasp with three adjustment notches (and remarkably easy to shorten or lengthen), combines modern, patented construction –making it possible to recreate the style of the classic chain bracelets –with manual assembly and finishing, perpetuating the skills of the artisan chain-makers. This new chain-style bracelet is launched as an exclusive feature of the Golden Ellipse Reference 5738/1R- 001. The dial presents an ebony-black sunburst on which slender applied hour markers and hands, all in rose gold, stand out clearly. With its caliber 240 ultra-thin self-winding movement, this timepiece also
has the distinction of being the slimmest watch in the Patek Philippe regular collection.
Refined variations on the travel watches Ever since the globe was divided into 24 time zones at the end of the nineteenth century, Patek Philippe has accompanied the rapid growth in transcontinental travel, with models enabling the traveler to juggle
all the planet’s different times. The 1930s saw the arrival of the famous World Time watch, now equipped with a date display synchronized with local time. At the end of the 1950s, the Travel Time system of dual time zones made its debut. It has since become available in a wide variety of watches in very different styles. Today three new versions are enriching the range. The very essence of the travel watch with its sporty elegant Pilot style, the Alarm Travel Time (2019) claims the spotlight in a new version with a touch of two-tone: a case in rose gold and the tubes of the four pushers in white gold. This Alarm Travel Time Reference 5520RG-001 also stands out by its twotone dial: gray sunburst and charcoal gray, and applied Arabic numerals and sword-shaped hands in charcoal-gray white gold with a luminescent coating. Powered by the caliber AL 30-660 S C FUS selfwinding
movement, leading to four patent applications for the alarm, this Grand Complication unites the exclusive Travel Time system for the display of a second time zone with a 24-hour alarm mechanism, with a hammer striking on a classic gong. It joins its predecessor in the collection: Reference 5520P-001

in platinum with an ebony-black sunburst dial.
After steel and rose gold, the Aquanaut Travel Time with a self-winding movement now presents the first version in white gold, set off by a dial in blue-gray opaline and a matching integrated strap in a composite material. The harmonious color scheme accentuates the watch’s modern, casual chic. This new Aquanaut Travel Time Reference 5164G-001, equipped with the caliber 26-330 S C FUS self-winding movement, is distinguished by its system for the display of a second time zone, combining excellent
legibility with ease of operation. Its owner has only to press on one of the two pushers set into the left flank of the case to advance or move back the local-hour hand (the solid hand) in one-hour steps, without any effect on the watch’s rate accuracy. The date indication by a hand on the subsidiary dial at 6 o’clock is coupled with the local time.

In 2021, Patek Philippe welcomed into its Aquanaut range a travel watch equipped with a new quartz movement incorporating the Travel Time function, combined with a practical, discreet setting system using the crown. This timepiece made its debut in a rose-gold case with a diamond-set bezel and a white dial and strap. The manufacture has now brought out a new version in rose gold without diamonds. This Aquanaut Travel Time Reference 5269R-001 also attracts the eye with its blue-gray opaline dial embossed with the Aquanaut motif, and its integrated strap in a matching composite material, the
patented fold-over clasp secured by four independent catches. Contrasting polished and satin-brushed finishes accentuate the lines of the case, which measures 38.8 mm in diameter.

New faces among the calendar watches
Whether one considers the precious perpetual calendars – classic Grand Complications par excellence –or the ingenious Annual Calendar, which the manufacture patented in 1996, Patek Philippe offers a wide range of calendar watches distinguished by their exterior features and their particular display mode. And now the range has become even more extensive. In 2021, Patek Philippe unveiled a new perpetual calendar with day, date and month indications in one large aperture at the 12 o’clock position. Equipped with its distinctive patented display mode, this timepiece was launched in a platinum case framing a blue dial with a black gradation to the periphery. The manufacture is now revisiting this platinum model, endowing it with a rose-gilt opaline dial of vintage inspiration presenting facetted baton-style applied hour markers and facetted baton-style hands, all in
charcoal-gray white gold. The caliber 31-260 PS QL ultra-thin self-winding movement is notable for its additional module, awarded three patents, and its mini-rotor in platinum increasing the winding power. The new in-line perpetual calendar Reference 5236P-010 joins the platinum version, distinguished by its blue dial with a black-gradient rim, in the regular collection. With their sapphire-crystal back protected by a hinged dust cover, and their straight lugs, the “Officer’s”- style perpetual calendars with a retrograde date hand are among the models most sought after by devotees of rare timepieces –particularly when the case and the dial center are fully engraved by hand, as in Reference 5160/500G-001 in white gold, launched in 2016. Patek Philippe has now reinterpreted this exceptional model in rose gold with a silvery opaline gold dial presenting applied Breguet numerals
in blackened white gold and pear-shaped hands in black-oxidized yellow gold. Equipped with the caliber 26-330 S QR self-winding movement, this new Rare Handcrafts Retrograde

Perpetual Calendar
Reference 5160/500R-001 replaces the previous version in white gold. With its double day/month aperture at 12 o’clock and date aperture at 6 o’clock and its subsidiary 24-
hour dial incorporating a moon-phase display, the men’s Annual Calendar Reference 5396, launched in 2006, has established itself as a firm favorite. Patek Philippe is now bringing out a new version in white gold featuring a blue sunburst dial with a black gradient at the rim lit discreetly by the radiance of twelve baguette-cut diamond hour markers (0.26 ct). This elegant contrast plays up the extreme restraint and legibility of the dial design, with its facetted dauphine-style hands in white gold and slender sweep seconds hand. An alligator-leather strap in shiny navy blue echoes the dial color. It is secured by a foldover
clasp in white gold. This new Annual Calendar Reference 5396G-017 houses the caliber 26-330 S QA LU 24H self-winding movement.

New takes on timeless feminine elegance, sporty style and haute joaillerie
Patek Philippe now offers a regular collection of some 150 different references, produced in small series ranging from about ten pieces to several hundred. Every year, the goal is to ensure the coherent and balanced evolution of this vast range of timepieces in all market segments. In 2024 therefore, the manufacture is celebrating other models in the collection, brought into the spotlight by new dial designs, new case materials, new combinations of colors and new settings of precious gems.

Launched in 1999 in a steel case set with diamonds, the Twenty~4 – the first Patek Philippe collection dedicated entirely to women –made its mark as a classic example of timeless elegance, suited to every occasion. In 2018, this line, built initially around the “manchette” (or “cuff-style”) model with a quartz movement, enriched its offer with a new Twenty~4 Automatic in a round case. To celebrate 25 years of feminine seduction and success, Patek Philippe is now bringing out a new version of the “manchette” model in rose gold. The extremely refined dial of this Twenty~4 Reference 4910/1201R-010 is embossed with a motif of concentric waves, before being coated with several dozen fine layers of translucent lacquer, the first layers tinted purple, the later layers colorless, creating delicate plays of light and depth.

The Nautilus self-winding flyback chronograph Reference 5980, launched in 2006, has offered the choice of versions in rose gold or in two-tone steel and rose gold since 2010. Patek Philippe now revisits this elegantly sporty model in a new version in white gold with a blue-gray opaline dial, on which the rounded-baton style hands and the baton-style applied hour markers stand out clearly in white gold with a white luminescent coating. The dial’s refined color continues through to the two straps delivered with the watch, one in blue-gray calfskin, its embossed “denim” motif edged with contrasting white hand-stitching; the other in a composite material presenting a fabric motif, in blue-gray with contrasting white stitching. Endowed with a slightly enlarged dial opening, this new Nautilus Flyback Chronograph Reference 5980/60G-001 houses a caliber CH 28-520 C self-winding movement grouping the chronograph indications in one large mono-counter at 6 o’clock.
After the launch of an Annual Calendar in the Aquanaut collection in March 2023 and an Haute Joaillerie minute repeater in November 2023, Patek Philippe continues to enrich the Aquanaut line, with a new Aquanaut Luce Haute Joaillerie Reference 5268/461G-001 in white gold adorned with diamonds and blue sapphires, showcasing the “snow” and “baguette” settings. A chequered setting of gems on the dial recalls the Aquanaut collection’s emblematic motif. On the rounded octagonal bezel, baguette-cut sapphires form a subtle gradation from light blue to dark blue. This delicate harmony of nuances continues through to the integrated composite strap, in a new shade of dark blue. This watch is endowed with a caliber 26-330 S self-winding movement, which may be admired through the sapphire-crystal back.

A rich collection of rare handcrafts
This year, as in previous years, Patek Philippe is also unveiling a rich collection of one-of-a-kind pieces and limited editions (dome clocks, table clocks, pocket watches and wristwatches) celebrating the most refined of the rare handcrafts, such as miniature painting on enamel, Grand Feu cloisonné enamel, hand engraving and wood marquetry. The “Rare Handcrafts 2024” exhibition bringing together these 82 creations will be open to the public from April 13 to 27 2024 in the Patek Philippe Salons in Genevaat 41 rue du Rhône every day except Sunday, from 11.00 to 18.00 (last entry at 17.00). Visitors are invited to register online before on the site patek.com.
The “Rare Handcrafts 2024” exhibition will then be presented, from 7 to 16 June, in the Patek Philippe Salons in Bond Street, London. A grand premiere for those emblematic premises, which have just been renovated, and a unique opportunity for visitors to admire the entirety of these outstanding creations before they rejoin private collections all over the world.

Two major evolutions for the Patek Philippe Seal
The aim of the Patek Philippe Seal, introduced in 2009, was to establish a new standard of quality for mechanical watches, while clearly describing what constitutes the essence and distinctiveness of Patek Philippe quality. The Seal was conceived by the Stern family as an all-embracing quality label that would continue to evolve, a dynamic reflection of the innovations and technical advances brought into play by the manufacture. With that objective in mind Patek Philippe set down in the Patek Philippe Seal two significant evolutions.

Strengthened criteria governing rate accuracy
The rate accuracy of Patek Philippe watches is checked at several stages in the manufacturing process, initially with uncased movements and then with finished watches. Since 2009, the final rate-accuracy measurement, performed on a kinetic simulator, must comply with the following precision standards: within the range of -3 and +2 seconds per 24 hours for calibers with diameters of 20 mm or more; within the range of -5 and +4 seconds per 24 hours for calibers with diameters of less than 20 mm, and within the range of -1 and +2 seconds per 24 hours for watches with a tourbillon (with, in addition for this last group, the greatest deviation between the average rate of the watch in all six measuring positions and the rate in each position must not exceed 4 seconds per 24 hours). Henceforth, all watches equipped with a Spiromax® balance spring in Silinvar® or a traditional Breguet balance spring must therefore comply with a tight tolerance range of -1 and +2 seconds per 24 hours –an advance made possible by the perfectly concentric development of the Spiromax® balance spring and the progress in precision timing achieved by Patek Philippe. The watches with a tourbillon, which must comply with this same tight tolerance range, are delivered with an individually issued rating certificate and remain subject to the same stipulations as regards rate accuracy in six measuring positions.

Unified criteria for water-resistance
To ensure the homogeneity and clarity of the information provided to clients, Patek Philippe has decided to introduce a new unified standard of water-resistance set at 30 meters for all watches certified as water-resistant –having been tested in air and underwater by immersion at an overpressure of 3 bars (corresponding to a depth of 30 m). This measure makes it possible to guarantee the same performance level across all the models concerned and to provide perfectly comprehensible information as to the day-to-day activities in which clients can engage while wearing their watch: washing their hands, showering, bathing, swimming and other aquatic activities, including diving to a depth of 30 m – which corresponds in large measure to actual utilization.
An international 5-year warranty for new watches

The Watches and Wonders Salon 2024 is also the occasion for Patek Philippe to announce an evolution with regard to the international warranty. For all new Patek Philippe watches sold as from May 1 2024, the duration of this warranty increases from two years to five years, counting from the date of purchase. In addition to this new advantage for the customer, it is important to remember that the Directives of the Patek Philippe Seal already contain a pledge by the International Customer Service network to service, repair or restore every watch produced by the manufacture since its foundation in 1839. In sum, everything is in place to ensure the long-term reliability of these timepieces, designed and built to be handed down to future generations.