เพียเจต์ (Piaget) เฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี ด้วยการเผยโฉมคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่ล่าสุด ในชื่อ “Essence of Extraleganza”

เพียเจต์ (Piaget) เฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี ด้วยการเผยโฉมคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่ล่าสุด ในชื่อ “Essence of Extraleganza” หรือ 150 year anniversary collection ที่หยิบแรงบันดาลใจของชิ้นงานที่เรืองรองและสร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการนาฬิกาและจิวเวลรี่มากมายในยุค 1960 และ 1970 มาตีความให้เข้ากับยุคสมัยยิ่งขึ้น ทั้งยังสะท้อนค่านิยมหลักของแบรนด์และชวนเซอร์ไพรส์ในทุกมิติ กับ 3 ธีมหลัก อย่าง Extraleganza, Piaget Society และ When mastery ignites artistry

EXTRALEGANZA

ชื่อของธีมนี้ เกิดจากการเล่นคำระหว่าง “Extravagance” และ “Elegance” รายละเอียดของชิ้นงานใน Extraleganza จึงเหมือนการสะท้อนจิตวิญญาณของเหล่าช่างฝีมือและนักอัญมณีศาสตร์ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสร้างสรรค์ ความขบถนอกกรอบ และรสนิยมอันล้ำสมัย 

เครื่องประดับชั้นสูงเซตนี้ โดดเด่นด้วยเฉดสีร้อนแรงจากอัญมณีจำพวกคาร์เนเลียน, สเปสซาร์ไทต์, แซฟไฟร์สีเหลือง ที่เมซงนำมาร้อยเรียงสลับกับเพชรน้ำงามได้อย่างลงตัว ประกอบด้วยสร้อยคอ ตุ้มหู และแหวนเข้าเซต ไฮไลต์ที่น่าสนใจคือการนำคาร์เนเลียนเจียระไนทรงสี่เหลี่ยมคางหมูมาประดับบนสร้อยคอโรสโกลด์ในดีไซน์สายโซ่ ทั้งยังเสริมด้วยอัญมณีเม็ดกลาง อย่าง สเปสซาร์ไทต์ทรงหมอน ขนาด 21.23 กะรัต เป็นอีกชิ้นงานที่ไล่เฉดสีอัญมณีได้อย่างไร้ที่ติ 

กำไลสไตล์ cuff ที่สามารถปรับให้เข้ากับลุคของผู้สวมใส่ได้อย่างไม่จำเจ รังสรรค์จากทองคำ, แซฟไฟร์สีชมพู และสเปสซาร์ไทต์ ชิ้นงานที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และความชำนาญของช่างอัญมณีได้อย่างลงตัว โดยหยิบเอาอิทธิพลของกูตูร์มาเล่าเรื่องราวผ่านชิ้นงาน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่พลิ้วไหว ไปจนถึงการออกแบบที่ไม่สมมาตรซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของเพียเจต์ ก็ถูกสอดแทรกไว้อย่างมีชั้นเชิง ดังที่ปรากฏให้เห็นผ่านสายรัดข้อมือแบบเมลานีสที่ออกแบบให้สามารถถอดออกหรือยึดเข้ากับโครงตาข่ายประดับเพชร ที่นอกจากจะโดดเด่นด้วยแซฟไฟร์สีชมพู ขนาด 4.42 กะรัต จากมาดากัสการ์ และสเปสซาร์ไทต์ ขนาด 6.40 กะรัต แล้ว รายละเอียดบนตัวเรือนยังตกแต่งด้วยเทคนิค Palace Décor อีกด้วย 

Scarf Necklace สร้อยคอที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผ้าพันคอ หนึ่งในผลงานสร้างชื่อตั้งแต่ปี 1984 ตัวเรือนทำจากไทเทเนียม และใช้อัญมณีมากถึง 1,500 เม็ดในการรังสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น แซฟไฟร์, สเปสซาร์ไทต์, ทัวร์มาลีน เพื่อนำเสนอความงดงามในเฉดสีรุ้งได้อย่างมีมิติและสมจริง มาพร้อมกำไล แหวน และตุ้มหูเข้าเซต นอกจากนี้เมซงยังนำเสนอจิตวิญญาณเดียวกันในเวอร์ชั่น bi-colour ประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินและเพชร 

มรกตทรงกลม นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องหายากแล้ว เมซงยังท้าทายด้วยการเสาะหาเพื่อให้เฉดสีเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย ซึ่งหลังจากรวบรวมอัญมณีล้ำค่าทั้งหมดมาได้ เมซงทุ่มเทเวลาอีกกว่า 2 ปีในการค้นคว้าเพื่อหาหนทางในการนำเสนอและจัดองค์ประกอบอัญมณีแต่ละเม็ด ให้เปล่งประกายจากความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น มรกตทรงกลมและทรงบาแก็ตต์ รวมกว่า 30 กะรัต, เพชรบริลเลียนต์คัต ไปจนถึงทองคำที่ตกแต่งด้วยหัตถศิลป์ Palace Décor – สร้อยคอชิ้นนี้จึงเป็นหนึ่งในมาสเตอร์พีซที่การันตีถึงจิตวิญญาณของเหล่าช่างฝีมือได้เป็นอย่างดี แมตช์ลุคด้วยแหวน ตุ้มหูเข้าเซต พร้อมด้วยนาฬิกาไฮจิวเวลรี่ จากคอลเลกชั่น Altiplano ที่มาพร้อม ฟลายอิ้ง ตูร์บิญอง แบบบางพิเศษ 

สีน้ำเงิน ถือเป็นเอกลักษณ์ของเพียเจต์ที่โดดเด่นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ โดยครั้งนี้เมซงเลือกนำเสนอผ่านสร้อยคอสไตล์ V-shaped ที่ออกแบบให้รับกับแซฟไฟร์สีน้ำเงินทรงไข่ขนาด 13.05 กะรัต จากมาดากัสการ์ได้อย่างไร้ที่ติ เสริมด้วยอัญมณีหลากชนิด อาทิ  โอปอล, เทอร์ควอยซ์, เพชร, แซฟไฟร์, ทัวร์มาลีน และอความารีนเจียระไนทรง มาร์คีส์ ที่เป็นซิกเนเจอร์คัตเลื่องชื่อของเมซง โดยไม่ลืมสอดแทรกรายละเอียดการแกะสลักบนเนื้อทองคำด้วยเทคนิค Palace Décor ลงบนชิ้นงาน มาพร้อมแหวน และตุ้มหูในสไตล์เดียวกัน

 

PIAGET SOCIETY

ธีมที่สองนี้เป็นการเฉลิมฉลองจิตวิญญาณที่หาญกล้าของเพียเจต์ และหัตถศิลป์ที่บ่มเพาะมาอย่างยาวนานจนสร้างสไตล์อันเป็นที่น่าจดจำและดึงเอาคาแรคเตอร์ของอัญมณีแต่ละชิ้นมานำเสนอได้แบบไม่ซ้ำใคร 

ความสง่างามที่เต็มไปด้วยจินตนาการสุดล้ำของสร้อยคอโรสโกลด์เส้นนี้กำลังท้าทายสายตาทุกคู่ให้จับจ้อง ทั้งยังสื่อถึงมรดกของเมซงโดยตรง ด้วยการออกแบบที่นำเอาเส้นลวดทองคำมาบิดเกลียวอย่างพิถีพิถันด้วยมือ ก่อนขึ้นรูปเป็นทรงกลมและทรงรี ทำให้โครงสร้างของสร้อยคอลื่นไหลไปตามสรีระของผู้สวมใส่ ประดับด้วยแผ่นโอปอลขนาดใหญ่ และพื้นผิวที่เต็มไปด้วยประกายงามของเพชรที่เกิดจากการฝังอัญมณีแต่ละเม็ดด้วยเทคนิค Snow Setting มาพร้อมแหวน ตุ้มหู และนาฬิกาไฮจิวเวลรี่เข้าเซต 

สายสร้อยเส้นยาวที่หยิบคู่สีคอนทราสต์ของเมซงมานำเสนอได้อย่างชวนค้นหา ตัวเรือนโรสโกลด์ประดับด้วยเทอร์ควอยซ์เจียระไนทรงหลังเบี้ยมากกว่า 1,300 ชิ้น ปลายทั้ง 2 ข้างประดับด้วยพู่ระย้าทำจากทองคำ เสริมด้วยเพชร และลูกปัดเทอร์ควอยซ์ มาพร้อมตุ้มหูเข้าเซต และ Cuff watch ที่สามารถปรับเปลี่ยนสไตล์เป็นนาฬิกา หรือ กำไลข้อมือได้ตามชอบใจ  

เพื่อสื่อถึงชิ้นงานสไตล์ค็อกเทลที่เมซงหยิบมานำเสนออยู่บ่อยครั้ง สร้อยคอชิ้นนี้จึงเป็นตัวแทนชั้นเลิศที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของเมซงได้อย่างเย้ายวน ตัวสร้อยดึงดูดสายตาด้วยลูกปัดเทอร์ควอยซ์ที่มาในขนาดแตกต่างกัน ก่อนร้อยเรียงเข้ากับทัวร์มาลีนสีเขียวเจียระไนทรง มาร์คีส์ และแผ่นทองคำทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนประดับด้วยเพชรบริลเลียนต์คัต ขณะที่อัญมณีเม็ดกลางเลือกเฉดสีเหลืองของแซฟไฟร์ศรีลังกาเจียระไนทรงลูกแพร์ ขนาด 16.83 กะรัต มานำเสนอ จับคู่กับแหวนโรสโกลด์ที่ผสานความเป็นธรรมชาติของไม้มะเกลือไว้ได้อย่างลงตัว ประดับด้วยทัวร์มาลีนเม็ดเขื่องขนาด 26.55 กะรัต และเพชร นอกจากนี้ ยังมีกำไลสไตล์ cuff ในดีไซน์เดียวกัน โดยมีกิมมิคอยู่ที่หลอดประดับเพชร ที่สามารถถอดออกมาเป็นเข็มกลัดได้อีกด้วย

 

WHEN MASTERY IGNITES ARTISTRY

มาถึงธีมสุดท้ายในคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่  Essence of Extraleganza ชิ้นงานที่เป็นการผสมผสานระหว่างชั้นเชิงทางด้านฝีมือของเมซงและรสนิยมทางด้านกูตูร์ที่ฝังรากลึกมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน 

กำไลสไตล์ cuff ที่ตัวเรือนถักทอด้วยเส้นลวดทองคำที่ถูกขึ้นรูปให้เป็นเกลียวด้วยมือ นอกจากความอุตสาหะที่สะท้อนอยู่บนชิ้นงานแล้ว เทคนิคที่ทำให้ทองแต่ละขดร้อยเรียงต่อกันแบบปราศจากรอยต่อหรือจุดเชื่อมโยง ราวกับลอยอยู่ในอากาศ ถือเป็นทักษะชั้นครูที่เหล่าช่างฝีมือของเมซงบ่มเพาะมาอย่างยาวนาน นำเสนอคู่กับแซฟไฟร์หลากหลายเฉดรวมกว่า
56 กะรัต มาพร้อมแหวนประดับแซฟไฟร์สีม่วง และตุ้มหูเข้าเซต 

การขุดพบมรกตโคลัมเบียแล้วนำมาผ่านกระบวนการเจียระไนจนได้มรกตทรงบาแก็ตต์มากถึง 40 ชิ้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ เพราะธรรมชาติของมรกตมีรอยแตกร้าวง่าย หากไม่ชำนาญการอาจทำให้เสียเวลาเสาะหาวัตถุดิบใหม่ เมซงจึงพิถีพิถันหาวิธีนำเสนอเพื่อให้ผลงานที่ออกมาไม่ซ้ำใคร ทั้งยังชูสเน่ห์ของอัญมณีชนิดนั้นๆ ได้อย่างเจิดจริสที่สุด โดยครั้งนี้เมซงต่อยอดความสำเร็จด้วยการรังสรรค์เรือนเวลาไฮจิวเวลรี่ ประดับมรกตทรงบาแก็ตต์รวม 26.11 กะรัต และเพชรเจียระไนคัตเดียวกัน ซึ่งอัญมณีแต่ละชิ้นถูกยึดโยงอย่างประณีตด้วยเส้นเยลโลว์โกลด์ขดเกลียว ก่อนจัดวางองค์ประกอบให้ลดหลั่นอย่างมีมิติ มาพร้อมหน้าปัดอีนาเมลสีเขียว จับคู่กับแหวน และตุ้มหูเข้าเซต หรือเลือกคอนทราสต์กับแหวนประดับเพชรเกรด D ทรงลูกแพร์ขนาด 4.15 กะรัต ที่ล้อมรอบด้วยเพชรทรงบาแก็ตต์และเส้นเยลโลว์โกลด์ขดเกลียวในสไตล์ที่แปลกตาออกไป 

PIAGET SIAM PARAGON Location:

991, Shop M44-45, M Floor, Rama 1 Road

10330 Bangkok Thailand

Tel: 02-030-3795

 

 

PIAGET ESSENCE OF EXTRALEGANZA

Maison Piaget celebrates its 150th anniversary with a virtuoso High Jewellery watch collection highlighting the extravagance and elegance of a unique style. Paying tribute to its incomparably masterful use of gold and colour, the watchmaking and jewellery Maison reinvents itself through some hundred bold, captivating pieces where the fluidity of cuff bracelets and necklaces and the radiance of the gemstones adorning them are magnified by the excellence of perfectly accomplished savoir-faire.

Exalting the Piaget spirit 

The early Piaget style took shape in 1969 when this specialist of ultra-slim movements, established at La Côte-aux- Fées in 1874, launched the now iconic “21st Century Collection”. Shaped by “artisans who work like artists” who “always do better than necessary”, this array of jewellery watches makes an impression with its avant-garde signature. Precious metal takes on a fabric-like texture, mingling with ornamental stones in vibrant colours to awaken organic cuffs and unchained long necklaces… A new way to wear time.

To celebrate its 150th anniversary in 2024, Piaget rekindles its creative golden years of the 1960s and 1970s. “In 2022, when we began to design the 150 year anniversary collection,” recalls Stéphanie Sivrière, the Piaget jewellery and watch artistic director, “it wasn’t about identically reproducing heritage pieces, but rather taking inspiration from them. Revisiting those values of boldness, originality and elegance that characterise this Maison’s soul at the dawn of modernity.”

Supported by the exceptional craftsmanship demonstrated at the Piaget High Jewellery workshops in Geneva, these 96 pieces are an invitation to celebrate that art of living – cheerful yet sophisticated, extravagant and colourful – which characterises its jewellery creations. “Essence of Extraleganza” makes gold the subject and gemstones a true style element. It sets apart the women and men who will wear these pieces as free spirits seeking distinction.

With a richness rarely achieved in terms of design, in the diversity of gemstones and range of designs, this 150th anniversary collection unveils its jewels in each of three emblematic Piaget realms: “Extraleganza”, “Piaget Society”, and “When mastery ignites artistry”.

Extraleganza 

Named for its fusion of “extravagance” and “elegance”, this first chapter reveals the jeweller’s creative soul and avant-garde taste, adorned models set with exceptional stones in gold and light.

The spectacular Swinging Sautoir in turquoise, malachite, and yellow sapphire – a signature Piaget piece since 1969 – is a perfect demonstration. The jeweller showcases remarkable magnificence and fluidity by offering three different ways to wear it. Threaded onto a manually gem-set, diamond-paved gold chain, the blue and green beads include an aquamarine of 6.11 carats and a fabulous Sri Lankan yellow sapphire of 29.24 carats. These gems crown a pendant watch with a trapezoid dial in turquoise and diamonds which can be detached and worn on the wrist thanks to an i system that clips onto a bracelet.

Piaget brings its full, distinctive sense of flamboyance to this fiery jewellery set in carnelian, spessartite garnets, yellow sapphires, and diamonds. A masterpiece of virtuosity, the necklace asserts a striking orange gradation in trapezoid-cut carnelian set into rose gold. These ornamental stones mingle with diamonds and are mounted on an entirely hand-crafted rose gold chain, illuminated here and there with brilliant-cut diamonds and yellow sapphires. A cushion-cut spessartite garnet of 21.23 carats blazes at the heart of the necklace, reflected in a coordinating ring and pair of earrings.

This transformable cuff bracelet in gold, pink sapphire, and spessartite garnet perfectly condenses the jeweller’s creativity and savoir-faire. In addition to the couture influence of the jewellery’s shape, the Piaget taste for carefully wrought asymmetry emerges through rose gold Milanese mesh edged with diamonds and topped with an articulated bracelet in textured gold latticework. Engraved with the famous Palace Decor – which the jeweller designed in the early 1960s –, this precious metal is set with a pink sapphire of 4.42 carats from Madagascar and a spessartite garnet of 6.40 carats.

Inspired by a piece created in 1984, this titanium scarf necklace appears to be cut from a cloud of multicoloured silk. Sapphires, spessartite garnets, tourmalines. The 1,500 stones that compose it are set into bezels of corresponding colours, judiciously arranged according to their chromatic intensity.

This piece has an undeniable presence despite its airiness, and is accompanied by a bracelet, a ring, and a pair of earrings. The jeweller has crafted a bi-colour version in the same spirit, set with blue sapphires and colourless diamonds.

It took more than two years of research to assemble this exceedingly rare array of round emeralds, showcased on a unique white gold necklace. The beauty of this piece, set with more than 30 carats of green gems, arises from its interlacing links, which offer a brilliant play on texture and various cuts of gemstones: round and baguette-cut emeralds, brilliant-cut diamond paving, and gold engraved with the Palace Decor. This flawlessly draping piece is completed by a divine ring, set with a Colombian emerald of 5.72 carats mounted atop a round-and-baguette diamond marquetry design. A second ring, two pairs of earrings, and an ultra-slim watch with a flying tourbillon movement further complement the set.

The blue symphony – an undeniably distinctive Piaget signature – is expressed in this V-shaped necklace, richly ornamented with gemstones. At the centre of the piece, an oval Madagascan blue sapphire of 13.05 carats and a double row of sapphires, tourmalines, and marquise-cut aquamarine are surrounded by a cascade of opals, turquoise and diamonds, as well as Palace Decor-engraved gold. Coordinating with it is the jeweller’s great speciality, an ear adornment, which casts a magical spell around the ear. A ring completes this jewellery set, of which each piece features the added flourish of being engraved on the back with the Palace Decor.

Piaget Society

This second chapter celebrates the boldness of Piaget and its distinctive approach to jewellery. Here, richly coloured pieces make use of design and contract among gems to form a metaphor for the whirlwind life of those who wear them.

The avant-garde elegance of this hand-coiled rose gold necklace directly references the Maison’s heritage. The neo-Seventies extravagance of its design, with a fluidity that follows each of the body’s movements, is characterised by solid and slender shapes with a succession of empty circles and ovals, large opal plaques, and snow-set diamond surfaces. In the same vein are a double-tiered ring, a pair of earrings, and a marvellous watch designed by the Maison known as the “jeweller of time”.

Like a fabulous lasso that wraps around the neck, this long necklace features more than 1,300 turquoise cabochons set into rose gold. It creates the illusion of being a rope made up of blue gems, of which the incredible colour intensity is reinforced by six imposing turquoise beads. The fluidity of this charismatic piece is heightened by two pompoms of fine gold chain finished with turquoise points. It is accompanied by a transformable cuff bracelet with gold and diamond fringes that conceal a turquoise watch dial. A pair of earrings further complements the set.

In a reference to the Maison’s iconic cocktail pieces, this voluptuous set plays on textural effects. Opaque and radiant, the necklace showcases turquoise beads of various sizes against a jumble of marquise-cut green tourmalines and brilliant-cut diamond-paved lozenge shapes. Crowning the composition is a pear-cut Sri Lankan yellow sapphire of 16.83 carats. To accompany it, a fascinating green tourmaline of 26.55 carats is set into an ebony ring dotted with diamonds and lagoon tourmalines. Also crafted in natural wood, a massive cuff edged with turquoise and tourmalines is adorned with a diamond straw which transforms into a brooch.

When mastery ignites artistry 

Under the combined influence of the Maison’s virtuosity in craftsmanship and the historical Piaget taste for the couture theme, this realm brings precious textures to gold while offering a it whole new fluidity.

Coiled gold, the common thread of this High Jewellery collection, fits around this remarkable cuff featuring an extraordinary pairing of 26 rose and violet sapphires for a total of nearly  56 carats. The gold ropes, which appear to float in mid-air, follow the organic shape of each gemstone, demonstrating the jeweller’s unparalleled savoir-faire in crafting precious metal. In the same spirit, Piaget proposes a ring set with a violet sapphire and an exuberant pair of earrings adorned with 18 matching sapphires.

It is no small feat to unearth some forty Colombian baguette-cut emeralds, but here the accomplishment takes the form of an exceptional watch ornamented with 26.11 carats of the green stones. This one-of-a-kind piece drips with a mosaic of baguette-cut emeralds and diamonds, which even overflow along the sides, bringing the piece a truly original look. Articulated and underscored with a coil of yellow gold, each element is mounted on a different level to accentuate the depth of this creation. The exquisite refinement of this watch, with a dial in green enamel, demonstrates the mastery with which Piaget revisits its heritage. It is accompanied by a ring featuring a bold design where diamonds are offset from the setting, scattering from an emerald of 2.53 carats. Meanwhile, an extraordinary solitaire highlights a pear-cut D diamond of 4.15 carats of which the line is modernised by a marquetry of baguette-cut diamonds and coiled yellow gold threads. Piaget completes the set with an asymmetrical pair of earrings.

This one-of-a-kind collection, emblematic of Piaget’s dual savoir-faire in watchmaking and jewellery, exemplifies the Maison’s perfectionism in crafting the tiniest detail. Here, past and present fuse together to unveil a new virtuosity.

PIAGET SIAM PARAGON Location:

991, Shop M44-45, M Floor, Rama 1 Road

10330 Bangkok Thailand

Tel: 02-030-3795