#thethailandersnews
ในยุคที่การทำงานทางไกล (remote work) และการทำงานแบบไฮบริด (hybrid) กลายเป็นเทรนด์ทั่วโลก คำถามที่หลายคนสงสัยคือ การเข้าออฟฟิศทุกวันยังจำเป็นหรือไม่ หรือแท้จริงแล้วการได้อยู่ใกล้คนเก่งและเรียนรู้งานในสถานที่จริงคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จจริง ๆ?
เอ็มมา กรีเด (Emma Grede) ผู้ร่วมก่อตั้ง Skims และ Good American และเจ้าของทรัพย์สินกว่า 405 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Forbes คือหนึ่งในตัวอย่างคนที่เชื่อมั่นในพลังของการทำงานแบบเจอหน้ากัน เธอเล่าว่าการได้ “เรียนรู้จากความใกล้ชิด” คือสิ่งที่ช่วยขัดเกลาทักษะและความคิด ทำให้ซึมซับวิธีคิด การสื่อสาร และการตัดสินใจของผู้นำได้เต็มที่ กรีเดเน้นว่าที่บริษัทของเธอ พนักงานต้องเข้ามาออฟฟิศครบห้าวันต่อสัปดาห์ เพราะสำหรับงานที่เน้นสินค้า การสร้างสรรค์ และความละเอียด การได้อยู่ในห้องเดียวกันย่อมช่วยให้ตัดสินใจเร็วขึ้น แก้ปัญหาได้ทันที และสร้างพลังร่วมของทีมได้ชัดเจน
ข้อดีของการเข้าออฟฟิศทุกวันคือการสร้างโอกาสแบบไม่ได้คาดคิด เช่น การแลกไอเดียระหว่างพัก การได้ “ถูกมองเห็น” จนเกิดความไว้วางใจจากผู้บริหาร และยังช่วยพัฒนา soft skills เช่น การสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์ข้ามทีม อย่างไรก็ตาม การเข้าออฟฟิศไม่ใช่ทางออกสำหรับทุกคน งานบางประเภท เช่น งานเขียนหรือโปรแกรม ต้องการสมาธิมากกว่า และการเดินทางทุกวันอาจเพิ่มความเครียด ผลสำรวจ Gallup ปี 2023 พบว่า 76% ของพนักงานมีสมดุลชีวิตดีขึ้นเมื่อทำงานยืดหยุ่น และ 61% รู้สึกเหนื่อยน้อยลง
สำหรับผู้บริหาร การบังคับเข้าทุกวันอาจลดโอกาสดึงดูดคนเก่ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับอิสระและสุขภาพจิต กรีเดเองก็ยอมรับว่ามีข้อยกเว้น เช่น คุณแม่หลังคลอด หรือบางช่วงที่พนักงานจำเป็นต้องปรับวิถีชีวิต สุดท้ายแล้ว คำตอบไม่ได้อยู่ที่การเลือกเข้าออฟฟิศหรือทำงานที่บ้าน แต่คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับคนและงาน เพื่อให้ทุกคนได้พัฒนาและสร้างผลงานที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง
In an era when remote work and hybrid models have become global trends, many people wonder: Is it still necessary to go into the office every day? Or is being physically close to talented colleagues and learning on-site truly the key to success?
Emma Grede, co-founder of Skims and Good American and owner of an estimated $405 million fortune according to Forbes, is a prime example of someone who firmly believes in the power of face-to-face work. She shared that “learning through proximity” was what sharpened her skills and mindset, allowing her to fully absorb how leaders think, communicate, and make decisions. At her company, employees are expected to work in the office five days a week because, for product-focused, creative, and detail-driven work, being in the same room allows for quicker decision-making, immediate problem-solving, and stronger team synergy.
Many supporters of full-time office work argue that it creates unexpected opportunities (serendipity), such as spontaneous idea exchanges during coffee breaks or impromptu live meetings. This visibility is especially beneficial for employees looking to grow quickly, helping them get noticed and build trust with managers and executives. It also fosters the development of soft skills like communication, emotional intelligence, and cross-team relationship building.
However, being in the office every day isn’t the answer for everyone. Some roles, such as writing, programming, or research, may require more focus and a quieter environment. Daily commuting can also add stress and disrupt work-life balance. A 2023 Gallup survey found that 76% of employees felt they had better work-life balance with flexible arrangements, and 61% reported experiencing less fatigue.
For leaders, strictly requiring in-office presence can limit the ability to attract top talent who value flexibility, especially younger generations who prioritize freedom and mental well-being. Even Grede acknowledges exceptions, such as new mothers returning to work or employees needing to adjust their routines at certain life stages.
Ultimately, the key isn’t simply about “being in the office” or “working from home.” It’s about creating an environment that fits both the people and the work, allowing everyone to develop and produce their best work in their own way.
#WorkCulture #OfficeLife #Leadership #EmmaGrede
ที่มา : www.cnbc.com
