ความอ้วน ไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง แต่อาจกระทบสุขภาพใจ งานวิจัยชี้ เสี่ยงซึมเศร้าถึง 55%

#thethailandersnews

หลายคนอาจมองว่าความอ้วนเป็นเพียงเรื่องรูปลักษณ์ที่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกาย เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือข้อเสื่อม แต่ในความเป็นจริง ความอ้วนยังสัมพันธ์กับสุขภาพจิตในอีกทาง โดยเฉพาะภาวะซึมเศร้า ข้อมูลจากการศึกษาแบบวิเคราะห์รวมขนาดใหญ่ (meta-analysis) โดย Luppino และคณะ ในปี 2010 ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 58,000 คน พบว่าผู้ที่มีภาวะอ้วนมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักปกติถึง 55% และในทางกลับกัน ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นถึง 58% ด้วยเช่นกัน

สาเหตุสำคัญเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งการอักเสบเรื้อรังจากไขมันส่วนเกิน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและความอยากอาหาร รวมถึงแรงกดดันทางสังคม เช่น การถูกล้อ การตีตรา หรือการถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งอาจสะสมจนส่งผลกระทบต่อสมดุลทางอารมณ์ หลายคนอาจเผชิญกับวงจร “กินปลอบใจ” เมื่อเครียดหรือรู้สึกผิดหวัง จนทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และกลับมารู้สึกไม่ดีกับตัวเองอีกครั้ง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ยืนยันว่า ความอ้วนสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพจิต โดยเฉพาะภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่อ้วนจะต้องเป็นโรคซึมเศร้า ความเสี่ยงนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น สภาพจิตใจเดิม สภาพแวดล้อม การสนับสนุนจากครอบครัว และวิถีชีวิต การสังเกตสัญญาณทางอารมณ์ เช่น รู้สึกเศร้าต่อเนื่อง เบื่อสิ่งที่เคยชอบ ไม่มีแรงจูงใจ นอนไม่หลับ หรือรู้สึกหมดพลัง สามารถช่วยให้เราเฝ้าระวังและเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้เร็วขึ้น

การดูแลสุขภาพกายและใจไปพร้อมกันถือเป็นสิ่งสำคัญ การปรับพฤติกรรม เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การฝึกสติ รวมถึงการหาแรงสนับสนุนจากคนใกล้ชิด สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ท้ายที่สุด ความอ้วนไม่ใช่ตัวกำหนดคุณค่าของใคร และไม่ใช่เครื่องชี้วัดว่าทุกคนจะต้องเผชิญกับปัญหาทางจิตใจ แต่การเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพกายกับใจ จะช่วยให้เราดูแลตัวเองได้อย่างรอบด้าน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและเป็นสุขทั้งภายนอกและภายใน

Obesity is not just about appearance or physical health risks like heart disease and diabetes — it is also linked to mental health, especially depression. A large meta-analysis (Luppino et al., 2010) involving over 58,000 participants found that people with obesity have a 55% higher riskof developing depression, while those with depression have a 58% higher risk of becoming obese.

These connections arise from factors such as chronic inflammation, hormonal changes related to stress and appetite, and social pressures like stigma or discrimination. While not everyone with obesity will experience depression, being aware of emotional signs — such as ongoing sadness, lack of motivation, or insomnia — is important for early support.

Caring for both body and mind through healthy eating, regular exercise, mindfulness, and strong social support can help reduce risks and improve quality of life. Ultimately, obesity does not define a person’s value. Understanding its link with mental health empowers us to take better care of ourselves inside and out.

#Obesity #Care #Appearance #HealthyMind

ที่มา : jamanetwork.com