คาร์เทียร์เผยโฉมคอลเลคชั่นไฮจิวเวลรี EN ÉQUILIBRE (ออง เอกิลิบร์)

สตอกโฮล์ม สวีเดน, 26 พฤษภาคม 2568คาร์เทียร์เผยโฉมคอลเลคชั่นไฮจิวเวลรี EN ÉQUILIBRE (ออง เอกิลิบร์) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความบริสุทธิ์ของเส้นสาย ความโดดเด่นของปริมาตร ความสมดุลแห่งสีสัน และพื้นที่ระหว่างความสมบูรณ์กับความว่างเปล่า ทุกสรรพสิ่งของคาร์เทียร์ล้วนสอดคล้องกันและมีศูนย์กลางอยู่ที่ความแม่นยำและความพอดี ก่อเกิดเป็นสไตล์ผลงานของคาร์เทียร์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จากความเรียบง่ายไปจนถึงความหรูหราอลังการ เฉดสีที่ไล่ระดับอย่างละเมียดละไม และคู่สีที่โดดเด่นลงตัว สร้างสมดุลระหว่างความสมมาตรกับความอสมมาตร ความกลมกล่อมยังเกิดขึ้นจากการสำรวจและนำพลังขั้วตรงข้ามมาอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน วิสัยทัศน์หนึ่งเดียวนี้ถ่ายทอดการรักษาสมดุลดุจนักกายกรรม อันเป็นนิยามแนวทางการสร้างสรรค์ของเมซง

“ขั้วตรงข้ามของความเรียบง่ายทว่าภูมิฐานได้สร้างเส้นสายอันเด่นชัดผ่านความสุขุมลุ่มลึก นอกจากจะเป็นดั่งศิลปะแห่งการมองสรรพสิ่งให้ต่างจากเดิมแล้ว ยังเป็นศิลปะแห่งการรังสรรค์ความสมดุลด้วยเช่นกัน ศิลปะแห่งดุลยภาพในแนวทางการสร้างสรรค์ของเรานี้จะเผยให้เห็นสัมผัสแห่งความสอดคล้องกลมกลืนในแบบฉบับคาร์เทียร์” ฌาคลีน การาชี (JACQUELINE KARACHI) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์เครื่องประดับชั้นสูง

คอลเลคชั่น EN ÉQUILIBRE ประกอบด้วยชิ้นงานอันโดดเด่น ได้แก่

SHITO ชิโตะ

 

ดีไซน์ที่คำนึงถึงอัญมณีเป็นอันดับแรก สะท้อนวิสัยทัศน์ด้านไฮจิวเวลรีของเมซง

สร้อยคอเส้นนี้รังสรรค์ขึ้นจากมรกตแซมเบียทรงหยดน้ำขนาด 49.37 กะรัต 2 เม็ด รูปทรงที่กลมกลืนกันเสริมความสง่างามของอัญมณีให้โดดเด่นยิ่งขึ้น การจัดวางตำแหน่งบนปลายจี้ทรงอสมมาตร ยังทำให้มรกตคู่นี้เป็นทั้งต้นและปลายของสายสร้อยที่เรียงร้อยจากเพชรและมรกต มรกตรูปทรงโค้งมนบริสุทธิ์สะอาดตา เชื่อมร้อยด้วยเพชรที่เรียงตัวเป็นรูปอักษร X ส่วนด้านหลังเชื่อมด้วยตัวล็อคสายแบบปรับได้ฝังเพชรน้ำงาม ความประณีตของผลงานเกิดจากความแม่นยำของเส้นสายที่สะท้อน แนวคิดที่ว่า “ไม่มีอะไรเกินพอดี”

 

HYALA ไฮยาลา

 

สร้อยที่ถักทอจากเพชรและแซฟไฟร์หลากสี ให้ความรู้สึกบางเบาดุจผ้าคลุมยามสวมใส่         

งานฝีมือบนตัวเรือนโรสโกลด์ของสร้อยคอเส้นนี้ดูประณีตราวกับว่าอัญมณีทุกเม็ดถูกจัดวาง
รอบลำคอโดยไม่มีตัวเรือนขวางกั้น เพชรทรงหยดน้ำเปล่งประกายระยิบระยับอยู่ใต้จี้เพชรรูปไข่ขนาด 5.71 กะรัตดูโปร่งใสอย่างน่าทึ่งและน่าค้นหาไปพร้อมกัน

ความหรูหราของสร้อยระย้าเส้นงามละเมียดละไมดุจใยแมงมุมเส้นนี้ สะท้อนให้เห็นความเชี่ยวชาญของช่างจิวเวลรีจากคาร์เทียร์ได้เต็มเปี่ยม

 

PANTHÈRE ORBITALE ปองแตร์ ออร์บิตาล

สีสันสะดุดตาและขนาดอันโดดเด่นทำหน้าที่เป็นฉากหลังอันทรงพลังให้กับเสือแพนเตอร์   ที่ผงาดร่างบนลูกปัดคอรัลทรงคาโบชงในท่วงท่าที่เป็นแบบฉบับของเมซง

เสือแพนเตอร์ได้รับการสลักเสลาอย่างประณีตจากปลายใบหูจรดดวงตาฝังมรกต แนวขนประดับเพชรและออนิกซ์ ถ่ายทอดความสมจริงและพลังชีวิตออกมาให้สัมผัสได้ ส่วนคอรัลและแอมิทิสต์ต่างผสานความงามเข้ากันอย่างกลมกลืน ตั้งแต่คอรัลทรงคาโบชงตรงกลางเส้นไปจนถึงลูกปัดเม็ดเล็กสุดบนสายส่วนที่คล้องบนลำคอ ไปจนถึงรูปทรงกลมเกลี้ยงของแอมิทิสต์ที่เผยสีสันสดใสให้เห็นอย่างเต็มตา

 

PANTHÈRE DENTELLE ปองแตร์ ดองแตลล์

 

เสือแพนเตอร์โดดเด่นบนเส้นสายสร้อยคอดูสะอาดตาพร้อมรายละเอียดที่แม่นยำ ลายจุดของเสือประดับด้วยออนิกซ์และเพชรบนเรือนกายที่ฉลุลายอ่อนช้อยดุจลูกไม้ มอบมิติให้กับผลงานการรังสรรค์เหนือระดับของช่างจิวเวลรี่จากคาร์เทียร์

องค์ประกอบสำคัญคืออัญมณีต่างๆ อย่างมรกตโคลอมเบียที่มาในรูปลูกปัดทรงเหลี่ยมหลายหน้าหลากหลายขนาดที่เรียงร้อยเป็นสร้อยระย้า เทคนิคการร้อยลูกปัดนี้เคารพดีไซน์ของชิ้นงานที่มีความโค้งและการจัดวางแบบเล่นเลเยอร์ ทำให้ทุกองค์ประกอบดูมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นสีสันที่ดูอิ่มตา

รูปลักษณ์ที่ดูพริ้วไหวและความทิ้งตัวอย่างละมุนละไมยามสวมใส่ วัสดุเปล่งประกายเหลือบรุ้งทวีแสงอันระยิบระยับผ่านเหลี่ยมมุมของอัญมณีแต่ละชิ้น ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่งดงามดุจมีชีวิต

 

TSAGAAN ซากาน

เสือดาวหิมะเป็นสัตว์จำพวกเสือที่หาชมได้ยากที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะขนที่กลมกลืนไปกับความขาวโพลนของฤดูหนาวจนแทบมองไม่เห็นตัว

สร้อยคอเส้นนี้ถ่ายทอดตัวตนของเสือดาวหิมะ สัตว์หายากที่มักอำพรางกายมิให้ใครหาเจอ ดีไซน์สะอาดตาคงเพียงองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ไว้เท่านั้น ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเส้นสายยังสร้างเอฟเฟ็กต์ภาพลวงตาว่าหัวเสือดาวหิมะปรากฏให้เห็นเพียงช่วงขณะก่อนเลือนหายไปเมื่อขยับเปลี่ยนมุมมอง การตกแต่งชิ้นงานด้วยการเชื่อมร้อยลวดลายเรขาคณิต ทั้งการฝังเพชรทรงว่าว ทรงข้าวหลามตัด และทรงสามเหลี่ยม พร้อมเสริมด้วยออนิกซ์เพื่อสร้างคู่สีขาวดำซึ่งเป็นหนึ่งในคู่สีเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์ ขณะที่การวางตำแหน่งอัญมณีสลับกับช่องว่าง ทำให้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่ลึกลับน่าพิศวง

 

TRAFORATO ทราโฟราโต

กระบวนการสร้างสรรค์เริ่มต้นจากอัญมณี ตามแนวทางที่คาร์เทียร์ยึดมั่นเสมอมา

มรกตโคลอมเบียทรงแปดเหลี่ยม 3 เม็ด 3 ขนาด เรียงตัวบนแกนกลางของสร้อยตาข่ายลายเรขาคณิต ตัวสร้อยประดับด้วยออนิกซ์และมรกต โดยเน้นลวดลายนูนต่ำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปพร้อมกับเพิ่มจังหวะให้กับดีไซน์ เกิดเป็นเอฟเฟ็กต์ภาพลวงตาควบคู่ไปกับความรู้สึกของการเคลื่อนไหว นอกจากนี้เทคนิคลายฉลุยังขับเน้นโทนสีดำ ขาว เขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น

 

PAVOCELLE ปาโวแซลล์

เพราะรูปทรงวงรีของแซฟไฟร์ซีลอนน้ำงามขนาด 58.08 กะรัตเม็ดนี้ ชวนให้นึกถึงความงามของหางนกยูง คาร์เทียร์จึงเกิดแรงบันดาลใจในการรังสรรค์สร้อยคอที่ถ่ายทอด
ความสง่างามของพญานกยูงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

จุดเด่นของชิ้นงานนี้คือแซฟไฟร์เม็ดกลางและลวดลายฉลุเชื่อมร้อยกับตัวสร้อย ชวนให้นึกถึงหางนกยูงที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ ความโปร่งเบาแต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกของการเคลื่อนไหว ทำให้ชิ้นงานดูมีชีวิตชีวาดุจลูกไม้ประดับเพชร แซฟไฟร์เม็ดกลางพร้อมทั้งตัวเรือนสามารถถอดออกมาสวมเป็นเข็มกลัดบนสร้อยโชคเกอร์ได้ ส่วนเพชรทรงลูกแพร์บนตะขอสามารถนำมาสวมเป็นจี้ได้ตามแบบฉบับการทำเครื่องประดับของคาร์เทียร์ที่เน้นการสวมใส่ได้หลายรูปแบบ

 

SUMMAE SET ชุดเครื่องประดับซุมมาย

จำกัดไว้เพียงองค์ประกอบที่จำเป็น คือความมุ่งมั่นในการรังสรรค์เครื่องประดับที่ผสมผสานเพชรทรงสามเหลี่ยม (troidia)    กับลูกปัดมรกต และแต่งแต้มด้วยออนิกซ์ 

ดีไซน์สุดประณีต ดูคล้ายการวาดด้วยการสะบัดปลายปากกาเพียงครั้งเดียว งดงามด้วยการประสานสีสัน ดำ ขาว เขียว ที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องประดับคาร์เทียร์ เข้ากับการเจียระไนอัญมณีทรงสามเหลี่ยม (troidia)

ผลงานที่เป็นเลิศทั้งงานฝีมือและความบางเบาชุดนี้ รังสรรค์ขึ้นด้วยความชำนาญเชิงช่างและความแม่นยำอย่างสูง โครงสร้างสุดประณีตที่มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น ทำให้อัญมณีเหมือนลอยเด่นออกมาโดยเฉพาะบนแหวน

“คอลเลคชั่น ออง เอกิลิบร์ สะท้อนให้เห็นความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือประจำเมซง ซึ่งใช้เวลาเกือบ 100,000 ชั่วโมง ในการรังสรรค์ผลงานคอลเลคชั่นนี้ งานแต่ละชิ้นนำเสนอความท้าทายในเชิงช่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องประดับชั้นสูงของคาร์เทียร์ไว้อย่างครบครัน ทั้งยังเป็นผลงานชิ้นเอกที่ถ่ายทอดความสมดุลที่ผสมผสานความยืดหยุ่น สัมผัสอันบางเบา และเส้นสายที่สะอาดตา ทำให้รู้สึกได้ถึงความเลอค่าจากสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา ไม่แพ้สิ่งที่มองเห็นได้ นับเป็นคอลเลคชั่นที่ความพิเศษเฉพาะตัวได้สร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจให้แก่ช่างฝีมือผู้รังสรรค์ผลงาน” อเล็กซา อาบิทโบล (ALEXA ABITBOL) ผู้อำนวยการเวิร์คชอปเครื่องประดับชั้นสูง