หุ้นของบริษัทรถยนต์ในประเทศจีนยังคงร่วงลงต่อเนื่อง จากความกังวลของนักลงทุนต่อสงครามราคาที่รุนแรงขึ้น และการเพิ่มความเข้มงวดของหน่วยงานกำกับดูแล โดย ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนอย่าง BYD นั่นเองที่เป็นตัวจุดชนวนความปั่นป่วนอีกครั้ง หลังประกาศลดราคาครั้งใหญ่ โดยลดราคารถยนต์ถึง 22 รุ่น รวมถึงรุ่น Seagull ที่ถูกหั่นราคาลงถึง 20% และรุ่น Seal hybrid ที่ลดลงถึง 34% ทำให้หุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงร่วงลงทันทีกว่า 9% แต่ไม่ใช่แค่ BYD เท่านั้น หุ้นของผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่น ๆ อย่าง Geely, Great Wall Motor, Li Autoและ Xpeng ก็ต้องปรับตัวลงเช่นกัน เกิดเป็นจุดเสี่ยงต่อทั้งผู้ผลิตและซัพพลายเออร์
ทำให้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Wei Jianjun ประธานของ Great Wall Motor และ Victor Sun นักวิเคราะห์จาก Morningstar เตือนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณของการ “สั่นคลอน” ของตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะเมื่อราคาขายเริ่มต่ำกว่าต้นทุนจริง กระทบต่ออัตรากำไรระยะสั้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ในจีนกว่า 169 ราย โดยครึ่งหนึ่งมีส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า 0.1% ทำให้ภาครัฐของจีนไม่ได้นิ่งนอนใจ เริ่มตรวจสอบกรณีการ “ปั๊มยอดขาย” ก่อนออกโรงเตือนว่า การแข่งขันในบางอุตสาหกรรมเริ่มรุนแรงเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทั้งระบบ
และการที่ผู้เล่นใหม่อย่าง Xiaomi และ Huawei เตรียมเข้าร่วมสมรภูมิ จึงมีความเห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ล้างบาง” ผู้เล่นรายเล็กที่ไม่สามารถทนต่อการขาดทุนได้ ขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ที่มีต้นทุนต่ำและขนาดการผลิตที่ใหญ่ จะสามารถอยู่รอดและกลายเป็นผู้นำตลาดในระยะยาว
Shares of Chinese automakers continue to fall as BYD’s steep price cuts — up to 34% on some models — spark a fresh round of price wars. The move has dragged down shares of rivals like Geely, Li Auto, and Xpeng. Experts warn the market is nearing a shakeout, with smaller players at risk as prices drop below cost and margins shrink.
Regulators are also increasing oversight, investigating tactics like “zero-mileage” car resales used to inflate sales figures. With over 169 automakers and new entrants like Xiaomi and Huawei joining the race, consolidation in the world’s largest auto market may finally be underway.
#BYD #EVpricewar #chinesestocks #updatenews #TheThailandder
ที่มา : www.cnbc.com , www.reuters.com