บทสัมภาษณ์ของคุณวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการแห่งธนาคารออมสิน (Government Savings Bank) ธนาคารที่มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาอันทรงคุณค่า

พบกับบทสัมภาษณ์ของคุณวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการแห่งธนาคารออมสิน (Government Savings Bank) ธนาคารที่มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาอันทรงคุณค่า นอกจากการทำหน้าที่สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศที่เคียงข้างคนไทยมายาวนานกว่าศตวรรษ ยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมและพัฒนาการเศรษฐกิจฐานราก ด้วยบทบาทธนาคารเพื่อสังคม ที่มุ่งสร้างคุณค่าร่วมเพื่อความสุขที่ยั่งยืนของคนไทยในทุกมิติ มีความเหมาะสมต่อการได้เข้ารับรางวัลอันทรงเกียรติ The Thailanders Top Business Organizations & Social Impact Sustainability Awards 2024 “THE THAILANDERS “BEST BANK in SUSTAINABLE FINANCE FOR SOCIAL IMPACT 2024”

โดย เดอะ ไทยแลนด์เดอร์ส

เดอะ ไทยแลนด์เดอร์ส : หลักการขับเคลื่อนองค์กรสู่ธนาคารเพื่อความยั่งยืน ของธนาคารออมสินเป็นอย่างไร 

คุณวิทัย รัตนากร : ธนาคารออมสิน ถือกำเนิดจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ด้วยพระราชปณิธานที่จะให้เป็นที่เก็บรักษาทรัพย์สินอย่างปลอดภัย ให้ราษฎรรู้จักเก็บออมอย่างถูกวิธี และยังคงธำรงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ตามพระราชปณิธานมากว่า 111 ปี ปัจจุบันปรับบทบาทองค์กรเป็นธนาคารเพื่อสังคม Social Bank ดำเนินภารกิจทั้งเชิงพาณิชย์และเชิงสังคมควบคู่กัน โดยนำกำไรจากธุรกิจปกติ มาสนับสนุนภารกิจเชิงสังคม มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาความยากจนและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการเงิน สร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ที่เป็นธรรม เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและเกิดผลลัพธ์ที่ดีกับประชาชนและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม “Making POSITIVE Impact” ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนองค์กรที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ โดยออมสินทำเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน ที่ให้ความสำคัญกับ ESG ซึ่งครอบคลุมสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) แต่ออมสินทำด้าน “S” หรือ “สังคม” มากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องตามภารกิจธนาคารเพื่อสังคม พร้อมกันนี้ได้นำแนวคิด “การสร้างคุณค่าร่วมต่อสังคม”หรือ CSV : Creating Shared Value มาเป็นกลยุทธ์ในการยกระดับและขับเคลื่อนการทำธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนและสังคม โดยมุ่งหวังขยายผลและสร้าง Social Impact ให้มากขึ้นและกว้างขึ้น

 

เดอะ ไทยแลนด์เดอร์ส : บทบาทการเป็น Social Bank เพื่อสร้าง Social Impact ในการช่วยผู้คนและสังคม ทำอย่างไร 

คุณวิทัย รัตนากร : แนวทางการสร้าง Social Impact ของเรา คือ การนำกำไรไปทำภารกิจและโครงการช่วยเหลือประชาชนและสร้างประโยชน์ให้ผู้คนและสังคมอย่างเป็นรูปธรรมให้มากขึ้น ผ่าน 4 บทบาท ที่จะสะท้อนการช่วยเหลือสังคมอย่างชัดเจน ได้แก่

1) Financial Inclusion คือการดึงคนเข้าสู่แหล่งเงินทุนในระบบ ปรับโครงสร้างดอกเบี้ยให้ต่ำลง เพิ่มและขยายโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง ผ่านมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนต่าง ๆ โดยเฉพาะการดำเนินงานผ่านกลุ่มบริษัทในเครือธนาคารออมสิน เช่น บริษัท มีที่มีเงิน จำกัด ทำธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก สำหรับกลุ่ม SMEs และ บริษัท เงินดีดี จำกัด ให้บริการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน “Good Money by GSB” สำหรับประชาชนกลุ่มฐานราก เป็นต้น เหล่านี้จะช่วยให้คนที่ไม่มีเครดิตหรือเครดิตต่ำ หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ที่ตามหลักเกณฑ์ของระบบธนาคารไม่สามารถปล่อยสินเชื่อได้ หรือเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่เป็นกลุ่ม Non-Bank ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ช่วยลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบได้

2) การแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งเป็นการแก้ไขหนี้แบบเบ็ดเสร็จเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ทุกกลุ่มผ่านการดำเนินมาตรการผ่อนปรนภาระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ รวมไปถึงการยกหนี้ เพื่อช่วยคนไม่ให้เสียประวัติทางการเงิน หรือหลุดพ้นจากการเป็นหนี้เสียได้เร็วขึ้น และให้โอกาสกลับมาใช้สินเชื่อในระบบอีกครั้ง ซึ่งเป็นการบรรเทาปัญหาหนี้ครัวเรือนตามนโยบายรัฐ โดยที่ผ่านมาได้ช่วยปลดหนี้ให้ลูกหนี้ NPLs จากวิกฤตโควิด แล้วกว่า 8.3 แสนราย ลดดอกเบี้ย MRR ในปี 2567 ไปแล้วถึง 3 ครั้ง รวมถึงการพักหนี้ 6 เดือน ไม่คิดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย คิดเป็นเม็ดเงินที่ธนาคารลดดอกเบี้ยให้มากกว่า 2,400 ล้านบาท

3) การพัฒนาสังคมและชุมชน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งผ่านการดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพ เสริมศักยภาพพัฒนาทักษะเพื่อสร้าง SMEs & Start up และการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม เช่น โครงการต้นแบบการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนในจังหวัดน่าน “ออมสินฮ่วมใจ๋ฮักขุนน่าน” ซึ่งช่วยให้เกิดการพัฒนาทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ

4) การสนับสนุนภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อาทิ การออกโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงสินเชื่อบ้าน เพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯ และสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องและเป็นทุนในการดำรงชีพ/ประกอบอาชีพของประชาชน

 

เดอะ ไทยแลนด์เดอร์ส : โมเดลการทำธุรกิจ ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคม ต่อจากนี้ จะไปในทิศทางใด

คุณวิทัย รัตนากร : จากนี้ไปเรามีเป้าหมายที่จะช่วยสังคมมากขึ้นอีก โดยใช้โมเดลการบริหารงานแบบกลุ่มธุรกิจ “GSB Group” เป็นกลไกขับเคลื่อนแผนขยายผลการช่วยเหลือสังคม และขยายขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว ซึ่งธนาคารออมสินเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งแรกที่มีการบริหารงานแบบกลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท มีที่มีเงิน จำกัด ทำธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก เพื่อขยายการเข้าถึงสินเชื่อของกลุ่ม SMEs ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ ARI-AMC เพื่อแก้ไขหนี้ครัวเรือนด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรน บริษัท เงินดีดี จำกัด เพื่อขยายการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชนกลุ่มฐานราก ด้วยการให้สินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน “Good Money by GSB” และ ตั้งบริษัทไอที เป็นของตนเอง คือ บริษัท จีเอสบี ไอที แมเนจเมนท์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับเทคโนโลยีของธนาคาร โดยเฉพาะด้านดิจิทัล/AI ที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในด้านการให้บริการ เช่น การให้สินเชื่อบน Mobile Banking : MyMo การยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งขณะนี้เรามี MyMo Secure Plus ที่สามารถป้องกันภัยออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิผล รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน อาทิ การบริการของสาขา การลดขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อ และการประเมินความเสี่ยงผู้กู้ เป็นต้น

 

เดอะ ไทยแลนด์เดอร์ส : ผลสำเร็จของ “ธนาคารเพื่อสังคม” และเป้าหมายต่อไปในการขับเคลื่อนองค์กรและสังคมสู่ความยั่งยืน

คุณวิทัย รัตนากร : จากความสำเร็จของ “ธนาคารเพื่อสังคม” ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เราสามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม มีผู้ได้รับประโยชน์ผ่านโครงการและมาตรการต่าง ๆ นับล้านคน โดยเฉพาะได้ช่วยประชาชนกลุ่มเครดิตต่ำและไม่มีเครดิตให้เข้าถึงแหล่งเงินในระบบแล้วกว่า 3 ล้านคน มีผู้เข้าถึงดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแล้วกว่า 5 ล้านคน เป็นต้น และเป้าหมายต่อไปคือ ต้องสามารถเข้าช่วยเหลือสังคมที่ประเมินเป็นตัวเลขเม็ดเงินผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ได้ปีละมากกว่า 15,000 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป โดยใช้กระบวนการทำธุรกิจอย่างสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าร่วม (Creating Shared Value : CSV) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กรมีขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ทำกำไรในระดับที่เหมาะสม (Responsible Profit) และมุ่งขยายผลการสร้างประโยชน์ต่อผู้คนและสังคม (Social Impact) ภายใต้บทบาทธนาคารเพื่อสังคม Social Bank ที่มากขึ้น ลูกค้าของธนาคารไม่ว่าจะใช้บริการหรือเป็นผลิตภัณฑ์ใดของธนาคารขอให้มั่นใจได้ว่า เราจะนำรายได้จากการทำธุรกิจไปช่วยเหลือสังคมให้มากขึ้น ตามแนวคิด “เป็นลูกค้าเรา เท่ากับช่วยสังคม” นี่คือเนื้อแท้ของการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ในแบบฉบับของธนาคารออมสิน

 

Interview with Khun Vitai Ratanakorn, President & CEO of Government Savings Bank (GSB), a bank that has stood alongside the Thai people for over a century, offering unwavering support and trust. More than just a leading financial institution, GSB has played a pivotal role in driving national development. By championing and supporting grassroots economic growth through its mission as a social bank, GSB is dedicated to creating shared value for the sustainable happiness of Thai people. These outstanding efforts have earned GSB the prestigious recognition as “THE THAILANDERS “BEST BANK in SUSTAINABLE FINANCE FOR SOCIAL IMPACT 2024.”

 

The Thailanders : How does GSB lead the way as a sustainable bank?

Khun Vitai Ratanakorn : Established by the royal intention of King Rama VI, GSB was envisioned as a safe place for people to save their money while fostering a culture of proper financial discipline. For over 111 years, GSB has stayed true to this royal vision. Today, it has evolved into a Social Bank, balancing commercial and social missions. Its approach involves reinvesting profits from regular business activities into social initiatives that aim to reduce poverty, address financial inequality, and provide fair access to funding sources. These efforts bring about tangible, positive changes for individuals and society. This mission, encapsulated in the concept of ‘Making POSITIVE Impact,’ aligns with the United Nations’ Sustainable Development Goals (SDGs), particularly focusing on reducing poverty and addressing financial inequality. GSB also integrates ESG principles (Environment, Social, and Governance) into its operations, with a significant emphasis on the “S” for Social. This focus reflects GSB’s commitment to its role as a social bank, prioritizing societal well-being as the cornerstone of its initiatives. Through the ‘Creating Shared Value’ (CSV) strategy, GSB aims to foster sustainable business growth while delivering meaningful benefits to communities, amplifying its social impact.

 

The Thailanders : How does GSB create meaningful Social Impact as a Social Bank?

Khun Vitai Ratanakorn : GSB channels its profits into impactful projects and initiatives designed to benefit individuals and society in four key areas:

1) Financial Inclusion: Expanding access to fair and affordable financial services by bringing people into formal financial system. This includes reducing interest rates, providing flexible credit terms, and ensuring widespread access to financial services. Subsidiaries like Mee Tee Mee Ngern Co., Ltd. provide land-backed loans and sell-and-lease-back services for SMEs, while Good Money Co., Ltd. offers microloans via the ‘Good Money by GSB’ app to grassroot populations. These initiatives are designed to help individuals with low or no credit scores or those deemed high-risk—groups who typically do not qualify for traditional bank loans—gain access to non-bank financial institutions within the formal system, offering fair and reasonable interest rates. This reduces reliance on informal lenders.

2) Debt Relief: Offering comprehensive debt solutions, including easing debt burdens, interest rate reductions, debt restructuring and forgiveness programs, to help individuals maintain their credit records, restore their financial health more effectively, and regain the opportunity to access formal credit systems. These efforts contribute directly to alleviating household debt in alignment with government policy. For example, during the COVID-19 crisis, GSB supported over 830,000 NPL borrowers with these measures, including three reductions to the Minimum Retail Rate (MRR) in 2024 to further ease financial pressures. Additionally, GSB introduced a six-month debt moratorium with zero interest for those affected by floods, collectively saving borrowers more than 2.4 billion Baht.

3) Community and Social Development: Empowering communities to achieve self-reliance through programs that enhance skills and potential for SMEs and startups, alongside holistic community development initiatives.  For example, the ‘GSB Hug Khun Nan’ project in Nan Province serves as a model for sustainable community development, promoting integrated progress across economic, social, and environmental dimensions.

4) Economic Stimulus: Partnering with government efforts to boost the economy via initiatives like low-interest loans (Soft Loan) for SMEs and small entrepreneurs, housing loans to stimulate real estate sector, and job creation loans to provide liquidity and funding for individuals to sustain livelihoods or start new ventures.

 

The Thailanders : What direction will the business model that integrates social support take in the future?

Khun Vitai Ratanakorn : Looking ahead, GSB is committed to increasing its societal impact by adopting the ‘GSB Group’ business model as a key driver for expanding social support and long-term competitiveness. GSB is the first state financial institution to implement a group business structure, which include subsidiaries with specialized roles. For instance, Mee Tee Mee Ngern Co., Ltd. provides land-backed loans and sell-and-lease-back services to expand access to affordable credit for SMEs at lower interest rates; ARI Asset Management Co., Ltd. resolves household debt with lenient terms; Good Money Co., Ltd. expands access to financing for grassroots populations through microloans available via the “Good Money by GSB” app; GSB IT Management Co., Ltd. strengthens GSB’s competitiveness by advancing digital and AI technologies to improve customer services (including providing loans through the MyMo mobile banking platform), enhance cybersecurity (such as securing transaction with MyMo Secure Plus), and optimize operational efficiency (upgrading branch services, streamlining loan approval process, borrower risk assessment).

 

The Thailanders : Achievements as a Social Bank and future goals for driving sustainability

Khun Vitai Ratanakorn : Over the past four years, GSB has made significant strides as a Social Bank, creating positive impact on millions of lives. Through various initiatives and measures, GSB has helped more than 3 million individuals with low or no credit access fair financing within the formal financial system. Additionally, over 5 million individuals have benefited from fair interest rates, enabling greater financial inclusion. Looking ahead, GSB aims to amplify it societal impact by generating over 15 billion Baht in positive social outcomes annually, starting in 2024. This goal will be achieved through the application of Creating Shared Value (CSV) principles, which serve as the foundation for strengthening long-term competitiveness, achieving responsible profitability, and delivering meaningful social impact to a broader audience. These efforts reaffirm GSB’s role as a Social Bank.

Every customer, regardless of the service or product they use, can rest assured that GSB will channel the income generated from its business operations to further support society. This aligns with the philosophy: “Being our customer means supporting society,” reflecting the essence of sustainable business practices and reaffirming GSB’s commitment to creating greater social value.