พลิกฟ้าฝ่าวิกฤติ สรุปแผน “การบินไทย” ยุคใหม่ จาก รัฐวิสาหกิจ สู่ บริษัทเอกชนเต็มตัว กลับมาเทรดปี68

“การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ จากเคยเป็นหนี้นับแสนล้านบาท มีเจ้าหนี้นับหมื่นราย ขาดทุนสะสม ก่อนเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การเดินทางระหว่างประเทศหยุดชะงักเมื่อช่วงปี 2563

กระหน่ำซ้ำเติมวิกฤติ จนฉุดให้สภาพทางการเงินเข้าขั้นโคม่ารุนแรง จนต้องยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลาย เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ขณะ 25 พ.ค. 2563 กระทรวงการคลังยอมปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นจาก 51.03% เหลือ 47.86% มีผลให้การบินไทยหลุดพ้นจากสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ

ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ “การบินไทย” หรือ TG ในตำนาน เร่งปฏิรูปธุรกิจ ดิ้นหารายได้ ลดรายจ่าย รีดไขมันส่วนเกิน ปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ เพื่อให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟู ตั้งแต่ปรับโครงสร้างหนี้และทุน ทั้งการเพิ่มทุน แปลงหนี้เป็นทุน เพื่อเพิ่มส่วนผู้ถือหุ้น

ล่าสุด การบินไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้มือของ “ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์” ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ประกาศเดินหน้า พาการบินไทยสู่ก้าวใหม่ในฐานะบริษัทเอกชนอย่างเต็มตัว พร้อมประกาศว่า ภายในไตรมาส 2 ปี 2568 การบินไทยจะสามารถออกจากการฟื้นฟูกิจการ และกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง หลังมีเจ้าหนี้แสดงเจตนาแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก ประสบความสำเร็จขั้นแรก

สรุป 25 ข้อ เรื่องราวของการบินไทย ก่อนกลับเข้ามาเทรด ปี 2568 

ทั้งนี้ Thairath Money ชวนสรุป 25 ข้อสำคัญ เกี่ยวกับเส้นทางของ “การบินไทย” จากรัฐวิสาหกิจ สู่ บริษัทเอกชน ผ่านอะไรมาบ้าง?

  1. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2503 ร่วมทุนระหว่างบริษัทเดินอากาศไทย หรือ Thai Airways Company (TAC) ซึ่งเป็นสายการบินภายในประเทศ และสายการบิน Scandinavian Airlines System (SAS) ของเดนมาร์ก ซึ่ง SAS เป็นผู้ถือหุ้น 30% โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาให้เป็นสายการบินแห่งชาติของไทย

  2. มีฐานปฏิบัติการหลักที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ การบินไทยเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับ 5 ในทวีปเอเชีย และอันดับ 43 ของโลก

  3. การบินไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2534 เริ่มแรกมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม

  4. การบินไทยเคยได้รับรางวัลสายการบินที่ให้บริการภาคพื้นที่สนามบินที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (The World’s Best Airport Services 2019)

  5. โครงสร้างการถือหุ้นดั้งเดิมของบริษัท แบ่งเป็น กระทรวงการคลัง 53.16%, ผู้ถือหุ้นรายย่อย 46.84%

  6. วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ราชกิจจานุเบกษาประกาศ เรื่อง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยสิ้นสภาพ

  7. ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 การบินไทย ปี 2563 มีสถานะขาดทุนสุทธิ 141,180 ล้านบาท

  8. ย้อนรอยสาเหตุการบินไทยขาดทุนสะสมเรื้อรัง พบนอกจากรายจ่ายสูง ยังมีปัญหาการจ่ายสินบน การจัดซื้อเครื่องบิน การบริหารงานภายใน เอื้อประโยชน์ผู้บริหารและพวกพ้อง

  9. จากปัญหาขาดทุนสะสม มีหนี้แสนล้าน ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบแผน 15 มิถุนายน 2564

  10. ปี 2566 การบินไทยกลับมาผลการดำเนินงานโดดเด่นอีกครั้ง โดยมีรายได้ 161,067 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 28,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,259.9% จากปี 2565 ที่ขาดทุนสุทธิ 252 ล้านบาท

  11. การดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2567 ของการบินไทย อยู่ที่ 24,191 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29,330 ล้านบาท

  12. ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. การบินไทยมีจำนวนผู้โดยสาร 11.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.7% จากปีก่อน

  13. รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากค่าบริการการบินจากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตราค่าบริการการบินต่อเที่ยวปรับตัวสูง ตลอดจนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายและการโฆษณาที่เพิ่มขึ้น จากความจำเป็นในการจ่ายค่าธรรมเนียมสำรองที่นั่งที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการจองเที่ยวบิน

  14. ปัจจุบัน การบินไทยมีพนักงาน 16,352 คน ซึ่งลดลงมากจากปี 2562 ที่มีพนักงานมากถึง 28,032 คน ซึ่งมาจากการลดคน ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่

  15. ความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูนั้น ปัจจุบัน การบินไทยมีการแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการแบบภาคบังคับ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Mandatory Conversion) คิดเป็นมูลค่า 37,601.9 ล้านบาท

  16. การบินไทยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 14,773.7 ล้านหุ้น โดยเจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 หรือกระทรวงการคลัง ได้รับการชำระหนี้เงินต้นคงค้างเต็มจำนวนในสัดส่วน 100% ในขณะที่เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5, กลุ่มที่ 6 (สถาบันการเงิน) และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ ได้รับการชำระหนี้เงินต้นคงค้างในอัตรา 24.50%

  17. แง่สิทธิ แปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนเพิ่มเติม โดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion) การบินไทยแจ้งว่า มีเจ้าหนี้แสดงเจตนารวมกันเกินกว่า 3 เท่าของจำนวนหุ้นที่มีรองรับตามแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว โดยได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นจำนวน 4,911.2 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 12,500.1 ล้านบาท

  18. การใช้สิทธิแปลงดอกเบี้ยตั้งพักใหม่เป็นทุนมูลค่า 3,351.2 ล้านบาท และได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,304.5 ล้านหุ้น สุทธิภาษีหัก ณ ที่จ่าย รวม (1) – (3) คิดเป็นภาระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งสิ้นมูลค่า 53,453.2 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 20,989.4 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

  19. “ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์” ระบุว่า จากการที่การบินไทยประสบผลสำเร็จจากกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุน จะส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นในงบการเงินของการบินไทยกลายเป็นบวกภายในสิ้นปี 2567 อันเป็นการบรรลุหนึ่งในเงื่อนไขในการยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ

  20. การบินไทยเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในส่วนถัดไป ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 9,822.5 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของการบินไทยก่อนการปรับโครงสร้างทุน ช่วง 6 – 12 ธันวาคม 2567 หลังไฟลิ่งมีผลบังคับใช้

  21. การบินไทยจะจัดการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ ตามเงื่อนไขในแผนฟื้นฟูกิจการ และยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ หลังจากกระบวนการปรับโครงสร้างทุนเพื่อให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก

  22. คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือนกว่าที่หุ้น THAI จะกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งก็คือไทม์ไลน์ช่วงไตรมาส 2 ปี 2568

  23. หน้าตาของโครงสร้างใหม่ที่จะได้เห็นหลังการขายหุ้นเพิ่มทุนสำเร็จ จะประกอบไปด้วย เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ 38.4%, กระทรวงการคลัง 32.9%, ผู้ถือหุ้นเดิม 12.4%, รัฐวิสาหกิจ 5% และกองทุนวายุภักษ์ 2.7%

  24. การบินไทยยุคใหม่อยู่ภายใต้แนวคิดและสโลแกนสำคัญ คือ “Fly for The New Pride” สู่ขอบฟ้าใหม่แห่งความภาคภูมิใจ

  25. ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 การบินไทยมีจำนวนเครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการบินรวม 77 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินลำตัวกว้างจำนวน 57 ลำ และเครื่องบินลำตัวแคบจำนวน 20 ลำ และมีเครือข่ายเส้นทางบินที่ให้บริการครอบคลุมกว่า 62 จุดบินใน 27 ประเทศทั่วโลก

โดย Thairath Money

Thai Airways Transforms into a Private Enterprise, Ready to Return to the Stock Market in 2025

Thai Airways, the nation’s flagship carrier, once burdened with hundreds of billions in debt and tens of thousands of creditors, has made a dramatic turnaround after facing financial turmoil exacerbated by the COVID-19 pandemic, which brought international travel to a halt in 2020.

The crisis plunged Thai Airways into severe financial distress, forcing it to file for bankruptcy protection and undergo rehabilitation. On May 25, 2020, the Ministry of Finance reduced its shareholding from 51.03% to 47.86%, officially removing Thai Airways from its status as a state enterprise.

Over the past three years, Thai Airways (TG) has undergone significant restructuring under its rehabilitation plan, reducing operational costs, downsizing its workforce, and converting debt into equity to improve its financial health.

Under the leadership of Piyasvasti Amranand, Chairman of the Rehabilitation Plan Committee, Thai Airways has announced its goal to fully transform into a private enterprise. By Q2 2025, the airline aims to exit its rehabilitation program and resume trading on the Stock Exchange of Thailand, marking a major milestone. This success comes as creditors have overwhelmingly opted to convert debt into equity, further stabilizing the airline’s financial position.

Summary of Thai Airways’ Story Before Returning to the Stock Market in 2025

  1. Foundation: Thai Airways International Public Co., Ltd. was established in 1960 as a joint venture between Thai Airways Company (TAC) and Scandinavian Airlines System (SAS), with SAS holding a 30% stake.

  2. National Airline Status: Its main operations hub is Suvarnabhumi Airport, ranking as the second-largest airline in Southeast Asia and fifth in Asia.

  3. Stock Market Listing: Thai Airways was listed on the Stock Exchange of Thailand on July 19, 1991, as a state enterprise.

  4. Awards: It was awarded the “The World’s Best Airport Services” second place in 2019.

  5. Original Shareholder Structure: The Ministry of Finance held 53.16% of the shares, while minority shareholders held 46.84%.

  6. Loss of State Enterprise Status: On July 13, 2020, Thai Airways’ state enterprise status was terminated.

  7. COVID-19 Losses: In 2020, Thai Airways incurred a net loss of 141,180 million baht.

  8. Accumulated Losses: Long-term losses were caused by high operating costs, bribery issues, aircraft procurement problems, and poor management practices.

  9. Restructuring Process: In June 2021, the Central Bankruptcy Court approved the business rehabilitation plan for Thai Airways.

  10. Recovery in 2023: Thai Airways reported a net profit of 28,123 million baht, up by 11,259.9% from the previous year.

  11. Performance in the First 9 Months of 2024: Thai Airways made a net profit of 29,330 million baht.

  12. Increase in Passengers: From January to September 2024, the airline served 11.62 million passengers, a 14.7% increase from the previous year.

  13. Revenue Growth: The increase in revenue came from more flights, higher airfare, and increased advertising costs.

  14. Employee Reduction: Thai Airways now employs 16,352 people, down from 28,032 employees in 2019.

  15. Debt-to-Equity Conversion: The company converted 37,601.9 million baht of debt into equity shares under the rehabilitation plan.

  16. Share Allocation: Thai Airways allocated 14,773.7 million shares, with the Ministry of Finance receiving full repayment of principal debt at 100%, while other creditors received 24.50% of their principal debt.

  17. Voluntary Debt Conversion: There was a voluntary conversion for additional debt-equity, with creditors agreeing to convert over three times the shares planned.

  18. Debt Interest Conversion: Converted interest debt into equity shares worth 3,351.2 million baht.

  19. Equity after Restructuring: By the end of 2024, Thai Airways’ equity is expected to be positive, fulfilling one of the conditions for ending the business rehabilitation process.

  20. Next Phase of Fundraising: Thai Airways plans to offer up to 9,822.5 million additional shares to existing shareholders in December 2024.

  21. Shareholder Meeting: A meeting will be held to appoint a new board of directors and request the court to terminate the rehabilitation process once the capital restructuring is complete.

  22. Stock Return Timeline: Thai Airways’ shares are expected to return to the stock market around the second quarter of 2025, roughly 5-6 months after capital restructuring.

  23. New Shareholding Structure: After the capital increase, creditors will own 38.4%, the Ministry of Finance 32.9%, existing shareholders 12.4%, state enterprises 5%, and Vayupak Fund 2.7%.

  24. New Vision: Thai Airways is rebranding under the slogan “Fly for The New Pride,” symbolizing a new era of pride and growth.

  25. Fleet and Network: As of September 30, 2024, Thai Airways operates 77 aircraft, including 57 wide-body planes and 20 narrow-body planes, serving 62 destinations in 27 countries worldwide.