“พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง” เทรนด์ใหม่สายการบินฮ่องกงยอดจองพุ่งสูง

“คนรักสัตว์เลี้ยงจำนวนมากปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงของตนเสมือนสมาชิกในครอบครัว และไม่อาจแยกจากพวกมันได้เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ” แนวคิดของเจฟฟ์ ซัน เจียนเฟิง ประธานสายการบิน Hong Kong Airlines ในบทสัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ South China Morning Post หลังเตรียมขยายบริการ “Pet-in-Cabin” หรือการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นห้องโดยสาร หลังเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้รับความนิยมถล่มทลายจนมีผู้จองเต็มล่วงหน้าไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

บริการนี้อนุญาตให้ผู้โดยสารนำสุนัขหรือแมว น้ำหนักไม่เกิน 8 กิโลกรัม ขึ้นเครื่องได้ โดยต้องอยู่ในกระเป๋าพกพาที่มีขนาดตามกำหนด และวางไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้า ค่าบริการอยู่ที่ 8,800 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัว (ไม่รวมค่าตั๋วเจ้าของ) โดยเปิดให้จองผ่านตัวแทนเฉพาะอย่าง Pet Holidays แม้จะได้รับความนิยม แต่กฎหมายของฮ่องกงยังไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าประเทศผ่านห้องโดยสาร ดังนั้นเที่ยวบินขากลับยังต้องให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในสัมภาระใต้เครื่อง

ปัจจุบันเปิดให้บริการในเส้นทางโตเกียว โอซาก้า และนาโกย่า แต่ทางสายการบินมีแผนขยายเส้นทางเพิ่มเติม พร้อมพิจารณาเพิ่มจำนวนที่นั่งสัตว์ต่อเที่ยวบิน และอาจเปิดให้สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ขึ้นเครื่องได้ในอนาคต โดยสามารถซื้อที่นั่งเพิ่มเติมให้สัตว์ได้ ทำให้การเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงในเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่ามูลค่าจะพุ่งแตะ 690 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ทำให้สายการบินต่าง ๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบประสบการณ์การเดินทางสำหรับสัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้น

Hong Kong Airlines plans to expand its popular “Pet-in-Cabin” service, which allows passengers to bring small dogs and cats (under 8 kg) into the cabin on flights to Tokyo, Osaka, and Nagoya. Bookings are full until mid-November due to high demand. The airline aims to add more routes, increase pet seats per flight, and possibly allow larger pets with extra seats. Despite popularity, pets must still fly in cargo on return flights due to Hong Kong regulations. This move reflects the growing pet travel market in Asia-Pacific, expected to reach US$690 million by 2030.

#HongKongAirlines #petIncabinservice #petfriendly #updatenews #TheThailandder

ที่มา : www.scmp.com , www.bangkokpost.com