อดีตประธานาธิบดีเปรู อัลเบร์โต ฟูจิโมริ ซึ่งเคยถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทุจริต ได้เสียชีวิตแล้วในวัย 86 ปี ลูกสาวของเขาได้ยืนยันข่าวนี้
ฟูจิโมริดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรูระหว่างปี 1990 ถึง 2000 ก่อนจะถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งเนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต
นโยบายที่เข้มงวดของเขาต่อการก่อความไม่สงบของกลุ่มกองโจรฝ่ายซ้ายในขณะดำรงตำแหน่งก็ทำให้เกิดข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนฟูจิโมริยกย่องเขาที่สามารถปราบกลุ่มกบฏในช่วงเวลาที่พวกเขาดูเหมือนจะยึดอำนาจได้สำเร็จ
เขาหนีออกนอกประเทศ แต่ถูกจับกุมและส่งตัวกลับ ก่อนถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกจำคุก
ลูกสาวของเขา เคย์โกะ ฟูจิโมริ ได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าอดีตประธานาธิบดีได้เสียชีวิต “หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน”
ฟูจิโมริถูกตัดสินในหลายคดี รวมถึงการทุจริต การใช้อำนาจในทางที่ผิด และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่โดยกลุ่มมือสังหารในช่วงต้นทศวรรษ 1990
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ฟูจิโมริได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำบาร์บาดิลโลในลิมา หลังจากรับโทษจำคุกมากกว่า 15 ปีจากโทษจำคุก 25 ปี ศาลรัฐธรรมนูญของเปรูได้ยืนยันการอภัยโทษที่ออกเมื่อหกปีก่อน
ผู้สนับสนุนฟูจิโมริเริ่มมารวมตัวกันที่บ้านของเขาทันทีที่ลูกสาวของเขาโพสต์ประกาศการเสียชีวิต
“หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน คุณพ่อของเรา อัลเบร์โต ฟูจิโมริ ได้จากไปพบพระเจ้าแล้ว” ลูก ๆ ของเขา เคย์โกะ ฮิโระ ซาชิ และ เคนจิ กล่าวในแถลงการณ์ร่วม
“เราขอให้ผู้ที่รักเขาร่วมอธิษฐานเพื่อให้ดวงวิญญาณของเขาได้พักผ่อนชั่วนิรันดร์
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะพ่อ!”
สำหรับผู้สนับสนุนฟูจิโมริ เขาคือผู้ที่ช่วยกอบกู้เปรูจากกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์สุดโหด เซนเดโร ลูมิโนโซ (เส้นทางสว่างไสว) และฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
แต่สำหรับเหยื่อผู้บริสุทธิ์นับพันจากความขัดแย้งครั้งนี้ ฟูจิโมริคือผู้นำเผด็จการและโหดเหี้ยม
ฟูจิโมริเป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวญี่ปุ่น ปกครองประเทศด้วยความเข้มงวด โดยมีเหตุการณ์การเมืองที่พลิกผันหลายครั้งในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่ง
เขาชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 1990 ขณะที่การก่อความไม่สงบของกลุ่มกบฏกำลังถึงจุดสูงสุด
สองปีต่อมา ฟูจิโมริได้สั่งปิดสภา กล่าวหานักการเมืองว่าขัดขวางการแก้ไขปัญหาที่ประเทศต้องการ
รัฐบาลของเขาสามารถปราบปรามกลุ่มกบฏได้สำเร็จ แต่ต้องแลกด้วยชีวิตของผู้คนจำนวนมาก
การปราบปรามของรัฐบาลเผด็จการของเขาทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 69,000 คน
ในที่สุด ฟูจิโมริก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มีเป้าหมายต่อชนพื้นเมืองที่ยากจนเป็นหลัก
ฟูจิโมริบริหารเปรูจนกระทั่งถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต เขาขอลี้ภัยในญี่ปุ่นก่อนจะเดินทางกลับไปยังชิลี ซึ่งเขาถูกจับกุม
ปัจจุบันลูกสาวของเขา เคย์โกะ เป็นผู้นำพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเปรู
เธอแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดไปอย่างฉิวเฉียด และได้ประกาศแล้วว่าเธอจะลงสมัครอีกครั้งในปี 2026
Former Peruvian leader Alberto Fujimori dies at 86
Peru’s former President Alberto Fujimori, who was convicted of human rights abuses and corruption, has died aged 86, his daughter has confirmed.
Fujimori governed Peru between 1990 and 2000 before being forced from office amid allegations of corruption.
His tough stance against a left-wing guerrilla insurgency while president also brought allegations of human rights abuses.
But his supporters praise him for defeating the rebels at a time when they looked likely to seize power.
He fled the country but was subsequently arrested and extradited, before being convicted and jailed.
His daughter Keiko Fujimori posted on social media to say the former president had died “after a long battle with cancer”.
He was convicted in a number of cases including corruption, abuse of power and being behind two death squad massacres in the early 1990s.
Last December Fujimori was released from Lima’s Barbadillo prison having served more than 15 years of a 25-year prison sentence.
Peru’s constitutional court had reinstated a presidential pardon issued six years previously.
Supporters of Fujimori began gathering outside his house as soon as his daughter posted the announcement of his death.
“After a long battle with cancer, our father, Alberto Fujimori, has just departed to meet the Lord,” his children Keiko, Hiro, Sachie and Kenji said in a joint statement.
“We ask those who loved him to join us in praying for the eternal rest of his soul.
“Thank you for so much, Dad!”
For Fujimori’s supporters, he was the man who saved Peru from a brutal Maoist rebel group, the Sendero Luminoso (Shining Path), and who put the economy back on track after skyrocketing inflation.
But for thousands of innocent victims of the conflict, Fujimori was an authoritarian figure and a brutal leader.
The son of Japanese immigrants, Fujimori ruled with an iron fist, his time in office marked by dramatic twists and turns.
He was first elected president in 1990, when the rebel insurgency was at its height.
Two years later, Fujimori closed Congress, accusing lawmakers of preventing him from taking the measures the country needed.
His government managed to defeat the rebel group but at a very high human cost.
His authoritarian government’s crackdown resulted in the deaths of an estimated 69,000 people.
Fujimori was eventually convicted of human rights violations that targeted mainly poor indigenous communities.
Fujimori governed Peru until he was forced from office amid allegations of corruption. He sought asylum in Japan before returning to Chile, where he was arrested.
Today his daughter Keiko is the leader of Peru’s biggest political party.
She lost the last presidential elections by a narrow margin and has already announced she will run again in 2026.
