หลังจากสูญหายไปนานกว่าครึ่งศตวรรษ ซากเรือบรรทุกสินค้า MV Noongah ที่จมลงนอกชายฝั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ในปี 1969 ได้ถูกค้นพบแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้น คร่าชีวิตลูกเรือไป 21 คน และนำไปสู่ปฏิบัติการค้นหาทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย
เรือ Noongah ขนาด 71 เมตร กำลังบรรทุกเหล็กเดินทางอยู่นอกชายฝั่ง เมื่อเผชิญพายุรุนแรงในวันที่ 25 สิงหาคม 2512 เรือส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้เพียงไม่กี่นาทีก็จมลงในทะเลที่ปั่นป่วน จากลูกเรือทั้งหมด 26 คน มีเพียง 5 คนที่รอดชีวิตและถูกช่วยขึ้นจากน้ำได้ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ส่วนผู้เสียชีวิตพบเพียงศพเดียวเท่านั้น
ทางการออสเตรเลียได้ส่งเรือพิฆาต เรือกวาดทุ่นระเบิด เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และเรือลำอื่น ๆ ของกองทัพเรือออกค้นหาอย่างเต็มกำลัง พร้อมกับทีมกู้ภัยที่ค้นหาตามชายฝั่งเพื่อหาร่องรอยของผู้รอดชีวิต แต่ชะตากรรมของลูกเรือที่เหลือและตัวเรือยังคงเป็นปริศนามาตลอด 55 ปี
ล่าสุด องค์การวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย (CSIRO) ได้ยืนยันตำแหน่งของซากเรือ โดยใช้เทคโนโลยีทำแผนที่พื้นทะเลความละเอียดสูงและภาพวิดีโอใต้น้ำ พบว่าซากเรือยังคงสภาพสมบูรณ์เป็นส่วนใหญ่ และตั้งตรงอยู่บนพื้นทะเลที่ความลึก 170 เมตร
การค้นพบครั้งนี้นับเป็นความหวังที่จะได้คำตอบว่าเหตุใดเรือจึงจมลง และช่วยให้ครอบครัวของลูกเรือที่เสียชีวิตได้รับการปลดเปลื้องหลังจากรอคอยมานาน ดังที่นาง Pamela Hendy ภรรยาของกัปตันเรือกล่าวว่า “มันอยู่ในใจฉันมาตลอด” การค้นพบนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการปิดฉากปริศนาทางประวัติศาสตร์ที่ค้างคาใจชาวออสเตรเลียมานานกว่าครึ่งศตวรรษ
โดย BCC News
Australia Discovers Shipwreck 55 Years After Major Maritime Tragedy
After more than half a century, the wreckage of the cargo vessel MV Noongah, which sank off the coast of New South Wales in 1969, has been located. This incident, which claimed the lives of 21 crew members, precipitated one of the most extensive maritime search operations in Australian history.
The 71-meter Noongah was transporting steel cargo offshore when it encountered severe weather conditions on August 25, 1969. The vessel managed to transmit a distress signal mere minutes before succumbing to the turbulent seas. Of the 26 crew members aboard, only five survived and were rescued from the water within hours of the incident. Among the deceased, only a single body was ever recovered.
Australian authorities mobilized a comprehensive search effort, deploying naval destroyers, minesweepers, aircraft, helicopters, and various other vessels. Rescue teams also conducted thorough searches along the coastline for any signs of survivors. However, the fate of the remaining crew members and the ship itself remained an unsolved mystery for 55 years.
Recently, the Commonwealth Scientific and Industrial Research Organisation (CSIRO) has confirmed the location of the wreck. Utilizing high-resolution seafloor mapping technology and underwater video footage, researchers discovered that the wreck remains largely intact and is situated upright on the ocean floor at a depth of 170 meters.
This discovery offers the prospect of understanding the circumstances that led to the ship’s sinking and provides potential closure for the families of the deceased crew members who have endured decades of uncertainty. As Mrs. Pamela Hendy, widow of the ship’s captain, poignantly expressed, “It has always been at the back of my mind.” This significant finding not only represents a triumph of modern technology but also concludes a historical enigma that has intrigued Australians for over half a century. It stands as a testament to the enduring quest for answers and closure in the face of maritime tragedies.
By BCC News