รัฐบาลเยอรมนีประกาศแผนการยกเลิกการใช้อุปกรณ์จากบริษัท Huawei และ ZTE ของจีนในเครือข่าย 5G ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ อาทิ Vodafone, Deutsche Telekom และ Telefonica ตกลงที่จะถอดอุปกรณ์เหล่านี้ออกจาก “เครือข่ายหลัก” ภายในสิ้นปี 2026 และจาก “เครือข่ายการเข้าถึงและการส่งผ่าน” ภายในสิ้นปี 2029
นางแนนซี่ เฟเซอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยของเยอรมนี กล่าวว่า มาตรการนี้จะช่วยปกป้อง “ระบบประสาทส่วนกลาง” ของเยอรมนีในฐานะสถานประกอบธุรกิจ และปกป้องการสื่อสารของพลเมือง บริษัท และรัฐ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่ปลอดภัยและยืดหยุ่น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านความมั่นคงและการพึ่งพาฝ่ายเดียว
การตัดสินใจครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีกับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด โดยทางการจีนประกาศว่าจะใช้ “มาตรการที่จำเป็น” เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทจีน ด้าน Huawei ยืนยันว่าไม่มีหลักฐานเฉพาะเจาะจงว่า เทคโนโลยีของบริษัทมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
การตัดสินใจของเยอรมนีสอดคล้องกับประเทศพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ที่ได้มีการห้ามหรือจำกัดการใช้อุปกรณ์จาก Huawei ในเครือข่าย 5G เนื่องจากความกังวลเรื่องการสอดแนมของจีน
ทั้งนี้ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา คิดเป็นสัดส่วน 21% ของรายได้ของ Huawei ในปีที่ผ่านมา การแบนครั้งนี้ จึงอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคดังกล่าว
โดย CNN News
Germany Set to Ban Huawei and ZTE from 5G Network Within 5 Years
The German government has announced plans to phase out equipment manufactured by Chinese companies Huawei and ZTE from its 5G network within a five-year timeframe. Major mobile network operators, including Vodafone, Deutsche Telekom, and Telefonica, have agreed to remove these components from their “core networks” by the end of 2026 and from “access and transport networks” by the end of 2029.
Nancy Faeser, Germany’s Interior Minister, stated that this measure would safeguard the “central nervous system” of Germany as a business hub and protect communications of citizens, companies, and the state. She emphasized the importance of secure and resilient telecommunications infrastructure to mitigate security risks and avoid unilateral dependencies.
This decision may have implications for Germany’s relationship with China, its largest trading partner. Chinese officials have declared their intention to implement “necessary measures” to protect the interests of Chinese companies. Huawei maintains that there is no specific evidence indicating that its technology poses cybersecurity risks.
Germany’s decision aligns with actions taken by allied nations such as the United States, United Kingdom, Australia, and Japan, which have previously banned or restricted the use of Huawei equipment in 5G networks due to concerns about potential Chinese surveillance.
It is noteworthy that Europe, the Middle East, and Africa accounted for 21% of Huawei’s revenue in the previous year. Consequently, this ban could have a significant impact on the company’s operations in these regions.
By CNN News
