เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กองกำลังเกาหลีใต้ได้ยิงปืนเตือนหลังจากที่กองทหารเกาหลีเหนือข้ามพรมแดนร่วมโดยไม่ได้ตั้งใจ ตามการระบุของกองทัพโซล ความตึงเครียดยังคงมีอยู่บนคาบสมุทรเกาหลีหลังจากการแลกเปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่างทั้งสองฝ่าย ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร ดูเหมือนว่ากองทัพเกาหลีใต้จะไม่เห็นความสำคัญของการยิงครั้งนี้ พวกเขาระบุว่าทหารเกาหลีเหนือถอยทัพอย่างรวดเร็วและไม่มีทีท่าว่าจะบุกโจมตีทางใต้ โดยอาศัยข้อมูลที่เป็นความลับ พันเอกลี ซุงจุน โฆษกเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้กล่าวว่า “ไม่มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติใดๆ นอกจากกองทัพเกาหลีเหนือเคลื่อนไปทางเหนือทันทีหลังจากการยิงเตือนของเรา กองทัพเกาหลีใต้ติดตามความเคลื่อนไหวของกองทัพเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดและดำเนินมาตรการที่จำเป็น”
รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นหลังจากการลงจอดบอลลูนที่เต็มไปด้วยขยะหลายร้อยลูกจากภาคเหนือในภาคใต้ และการกลับมาดำเนินการออกอากาศโฆษณาชวนเชื่อด้วยลำโพงโดยรัฐบาลโซลข้ามพรมแดนอีกครั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คิม โยจอง น้องสาวผู้มีอิทธิพลของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน เตือนว่าการกลับมาออกอากาศทางลำโพงอีกครั้งนั้นเป็น “บทนำของสถานการณ์ที่อันตรายมาก” เธอเตือนว่าเกาหลีใต้จะเผชิญกับ “การตอบโต้ครั้งใหม่” ที่ไม่ระบุรายละเอียดจากทางเหนือ หากยังคงมีการออกอากาศอยู่
เขตปลอดทหาร (DMZ) ยาว 160 ไมล์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีการป้องกันอย่างแน่นหนาด้วยรั้วสูงและกับระเบิด และส่วนใหญ่ไม่มีกิจกรรมของผู้คนในบริเวณนั้น เหตุการณ์เมื่อวันอาทิตย์ถือเป็นการยิงปืนครั้งแรกภายใน DMZ นับตั้งแต่ปี 2563 ตามคำกล่าวของลี โฆษกหัวหน้าร่วม กองทหารเกาหลีเหนือถอยทัพข้ามเส้นแบ่งเขตทหาร (MDL) หลังจากได้รับคำเตือน โดยไม่มีการยิงปืนข้ามเข้าสู่ฝั่งเกาหลีเหนือ ลีสังเกตเห็นป่าทึบใน DMZ ซึ่งเครื่องหมาย MDL มักถูกบดบัง มีทหารเกาหลีเหนือประมาณ 20 นายเข้าร่วม แต่กองทัพเกาหลีใต้ไม่ได้เปิดเผยจำนวนนัดยิงเตือนหรือจำนวนนัดที่ข้าม MDL
Seoul reports that South Korea fired warning shots following an accidental border crossing by North Korean troops.
On Sunday, South Korean forces fired warning shots after North Korean troops accidentally crossed the shared border, according to Seoul’s military. Tensions persist on the Korean Peninsula following a series of back-and-forth exchanges between the two sides. During a news briefing on Tuesday, the South Korean military seemed to play down the significance of the gunfire. They stated that the North Korean soldiers swiftly retreated and showed no signs of intending to invade the southern side, based on classified information. Colonel Lee Sung-jun, spokesperson for South Korea’s Joint Chiefs of Staff, stated, “There were no unusual movements other than the North Korean army immediately moving north after our warning shots. The South Korean military is closely monitoring the movements of the North Korean military and taking necessary measures.”
The incident report emerges amidst increased tensions following the landing of hundreds of trash-filled balloons from the North in the South and the resumption of loudspeaker propaganda broadcasts by the Seoul government across the border. Late Sunday, Kim Yo Jong, the influential sister of North Korean leader Kim Jong Un, cautioned that the resumption of loudspeaker broadcasts was “a prelude to a very dangerous situation.” She warned that South Korea would face an unspecified “new counteraction” from the North if it persisted with the broadcasts.
The 160-mile demilitarised zone (DMZ) between North and South Korea is heavily fortified with high fences and landmines, and largely devoid of human activity. Sunday’s incident marked the first gunfire within the DMZ since 2020, according to Lee, the Joint Chiefs spokesperson. North Korean troops retreated across the Military Demarcation Line (MDL) after the warnings, with no shots crossing into the North Korean side. Lee noted the thick forests in the DMZ, where MDL markers are often obscured. About 20 North Korean troops were involved, but the South Korean military did not disclose the number of warning shots fired or how many crossed the MDL.
By CNN NEWS