#thethailandersnews
เครื่อง CT Scan หรือการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในวงการแพทย์ที่ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นภายในร่างกายอย่างละเอียด ช่วยในการวินิจฉัยโรคได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น โรคที่มักต้องใช้ CT Scan ได้แก่ ภาวะเลือดออกในสมอง เส้นเลือดสมองตีบหรือโป่งพอง มะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะมะเร็งปอด ตับอ่อน ลำไส้ใหญ่ หรือรังไข่ ตลอดจนภาวะไส้ติ่งอักเสบ นิ่วในไต ติดเชื้อในช่องท้อง อุบัติเหตุที่อาจมีเลือดออกภายใน ไปจนถึงโรคหัวใจที่ต้องตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วย CT Angiography นอกจากนี้ยังใช้ในผู้ป่วยที่ต้องวางแผนผ่าตัดหรือทำรังสีรักษา รวมถึงใช้ติดตามผลการรักษาหลังผ่าตัดหรือให้เคมีบำบัด
แม้ CT Scan จะให้ประโยชน์อย่างมหาศาล แต่งานวิจัยล่าสุดจาก UCSF ที่ตีพิมพ์ใน JAMA Internal Medicine ปี 2025 เตือนถึงข้อควรระวัง โดยพบว่าการตรวจ CT Scan กว่า 93 ล้านครั้งในสหรัฐฯ ในปี 2023 อาจสัมพันธ์กับผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่กว่า 100,000 รายในอนาคต เนื่องจากการตรวจนี้ใช้รังสีไอออไนซ์ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งได้หากสะสมมากเกินไป โดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับการตรวจซ้ำหลายครั้งหรือได้รับการตรวจแบบหลายเฟสในจุดเดียวกัน ข้อมูลระบุว่า หากได้รับรังสีสะสมเกิน 100 มิลลิซีเวิร์ต (mSv) ซึ่งเทียบเท่าการตรวจ CT มาตรฐานราว 5–10 ครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ ความเสี่ยงจะเริ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กและวัยรุ่น ซึ่งมีความไวต่อรังสีมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า เนื่องจากร่างกายยังเจริญเติบโตเต็มที่ รวมถึงผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องตรวจซ้ำบ่อย เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้มีโรคปอดเรื้อรัง หรือโรคหัวใจที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ผู้หญิงตั้งครรภ์ก็จัดอยู่ในกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการตรวจหากไม่จำเป็น เนื่องจากรังสีอาจกระทบต่อทารกในครรภ์
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังคงยืนยันว่า CT Scan เป็นเครื่องมือวินิจฉัยที่มีความจำเป็น และช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมากในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือโรคร้ายแรง เป้าหมายไม่ใช่การหลีกเลี่ยง แต่คือการใช้อย่างเหมาะสม ปัจจุบันเทคโนโลยี CT รุ่นใหม่สามารถลดปริมาณรังสีลงได้ถึง 30–50% เมื่อเทียบกับเครื่องรุ่นเก่า ช่วยลดผลกระทบระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องตรวจหลายครั้ง
CT Scan จึงเปรียบเสมือนดาบสองคม หากใช้อย่างมีวิจารณญาณ ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ก็จะยังคงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การรักษาทันเวลา ช่วยชีวิต และป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
CT scans are vital diagnostic tools, offering detailed views of internal organs to quickly and accurately diagnose conditions like brain hemorrhages, vascular issues, and various cancers (lungs, pancreas, colon, ovaries). They also aid in identifying appendicitis, kidney stones, infections, and internal injuries, and are crucial for surgical planning and monitoring treatments.
However, a UCSF study (JAMA Internal Medicine, 2025), analyzing 93 million US scans from 2023, projects over 100,000 future cancer cases linked to CT radiation exposure. Accumulated doses, especially from repeat scans or multiphase imaging, significantly increase long-term cancer risk. A cumulative dose over 100 millisieverts (mSv)—equivalent to 5–10 standard CT scans in a short period—is a notable risk threshold.
High-risk groups include children/adolescents (more radiation sensitive), chronically ill patients needing frequent scans (cancer, lung, heart conditions), and pregnant women (due to fetal risk).
Despite these concerns, CT scans remain essential, particularly in emergencies. Newer CT technologies now reduce radiation exposure by 30–50%, minimizing risks, especially for those needing repeated imaging.
Ultimately, CT scans are a double-edged sword: when used judiciously and under medical guidance, they are powerful tools for saving lives and enabling timely treatment.
#CTScans #Radiation #Cancer #DiagnosticTools
ที่มา : cancer.ucsf.edu