#thethailandersnews
Jaeger-LeCoultre (เจเกอร์ เลอคูลตร์) เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดในคอลเลคชัน Master Ultra Thin นาฬิกาคอลเลคชันหลักที่ออกแบบให้ตัวเรือนและกลไกบางเฉียบ กับ Master Ultra Thin Tourbillon Enamel นาฬิกาคอลเลคชันหลักที่บางเฉียบ มาพร้อมกลไกทูร์บิญง และหน้าปัดเคลือบลงยาชั้นสูง ที่สะท้อนความเชี่ยวชาญด้านงานฝีมือและกลไกขั้นสูงของ La Grande Maison (ลา กร็องด์ เมซง) รุ่นลิมิเต็ดนี้มาพร้อมหน้าปัด Grand Feu enamel (กร็อง ฟือ อีนาเมล) สีเทาแอนทราไซต์ ผสาน hand-guilloché งานแกะลายบนหน้าปัดหรือโลหะที่ทำด้วยมืออย่างประณีตและละเอียดลายรังสี 180 เส้น อย่างประณีตบนตัวเรือนทองชมพู 18k ผลิตเพียง 50 เรือนทั่วโลก
หน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์ไม่เพียงเป็นฉากหลังให้ทูร์บิญงและหน้าปัดวันที่โดดเด่น แต่ยังเปล่งประกายตามลายรังสีทุกครั้งที่ข้อมือเคลื่อนไหว งาน guilloché (กีโยเช่) ละเอียดนี้ทำด้วยมือบนเครื่อง Rose Engine เดียว ใช้ 6 รอบต่อเส้น รวมกว่า 1,080 เส้น ส่วนหน้าปัดวันที่ใช้ลาย guilloché แบบวงกลม (azurage) สร้างมิติและพื้นผิวตัดกับลายรังสี ก่อนเคลือบ enamel Grand Feu 5 ชั้น ผ่านการเผาไฟที่ 800ºC เพื่อให้สีเข้มลึกและมิติสวยงาม งานฝีมือนี้สะท้อนทักษะ Métiers Rares™ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ด้วยหน้าปัดที่ประณีตและกลไกทูร์บิญงซับซ้อน Master Ultra Thin Tourbillon Enamel จึงเป็นสัญลักษณ์ของปรัชญา Jaeger-LeCoultre
กลไกของรุ่นนี้คือ Calibre 978 ทูร์บิญงรุ่นหลักของ Jaeger-LeCoultre ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตัวในปี 2009 กลไกประกอบด้วยชิ้นส่วน 77 ชิ้น รวมกรงไทเทเนียมที่น้ำหนักไม่ถึงครึ่งกรัม พร้อมสปริงสองระดับที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำสูง สะพานทองชมพูตกแต่งด้วยงานเก็บรายละเอียดแบบการสร้างนาฬิกาชั้นสูงที่ผสานความซับซ้อนทางกลไกเข้ากับงานฝีมือประณีตและวัสดุคุณภาพสูง ทั้งขัดเหลี่ยม ขัดเส้นตรง และลบมุมทุกขั้นตอน
รุ่นนี้ถือเป็นการผสานเทคนิคขั้นสูงเข้ากับความงามของงานฝีมือและการออกแบบตัวนาฬิกาสะท้อนตัวตนของ Jaeger-LeCoultre ในฐานะหนึ่งใน Manufactures ชั้นนำของโลก
Jaeger-LeCoultre launches the Master Ultra Thin Tourbillon Enamel, a 50-piece limited edition combining an anthracite Grand Feu enamel dial, hand-guilloché detail, and ultra-thin tourbillon mastery.
#JaegerLeCoultre #MasterUltraThin #Watches #LimitedEdition
