อัศจรรย์หัตถศิลป์บอกเวลา

หัตถกรรมลงยา: ณ จุดบรรจบระหว่างธรรมเนียมดั้งเดิมกับนวัตกรรมล้ำสมัย

เพื่อยกระดับเครื่องบอกเวลาไปสู่การเป็นผลงานศิลปะ หัตถศิลป์ชั้นสูงแบบฉบับฝรั่งเศส หรือ métiers d’art มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการก่อกำเนิดความวิจิตรบรรจงดุจบทกวีพรรณนาเรื่องราวอันงดงามมาประดับไว้บนข้อมือ ภายในห้องปฏิบัติการแผนกต่างๆ ของโรงงานผลิตนาฬิกาข้อมือที่กรุงเจนีวา Van Cleef & Arpels ขับเคลื่อนวิวัฒนาการขยายผลทักษะความชำนาญหลากแขนงเหล่านี้ออกไปอย่างต่อเนื่อง กลไกสำคัญส่วนหนึ่งของภารกิจนี้ก็คือแผนกลงยากับโรงเรียนฝึกอบรมเฉพาะด้าน

สำหรับงานฝีมือในสาขาศิลปะลงยา นอกจากจะต้องใช้เวลากับความมุ่งมั่นทุ่มเทระดับสูงแล้ว เมซงยังรุดหน้าสู่ความแตกต่างอย่างโดดเด่น และเป็นหนึ่งด้วยการผลักดันให้มีzการพัฒนาเทคนิคลงยานวัตกรรม อันนำมาซึ่งผลงานตกแต่งลายนูนต่างระดับ จากงานลงยานูนต่ำไปจนถึงงานลงยานูนสูงประดุจประติมากรรมสามมิติ

ไม่ต่างอันใดจากโจทย์ท้าทายความสามารถทางการออกแบบของแผนกสร้างสรรค์หรือ Creation Studio ในการพัฒนาเทคนิคนวัตกรรม จำต้องอาศัยเวลาหลายปีไปกับการศึกษา วิจัย รวมถึงทดสอบกรรมวิธีแต่ละลำดับขั้นตอนบนจุดบรรจบระหว่างศาสตร์ และศิลป์ เพื่อหลอมรวมรายละเอียดเชิงเทคนิค เข้ากับความงดงามตามจินตนาการในการเล่าเรื่องราวผ่านหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ

งานฝังแผ่นหินไข่นกการเวกปูลายลงบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ Lady Arpels Jour Enchanté

EXTRAORDINARY DIALS คอลเลกชันนาฬิกาข้อมือหน้าปัดวิจิตรศิลป์

ด้วยเหตุที่หน้าปัดของนาฬิกาข้อมือแต่ละเรือนเป็นเสมือนเวทีการแสดงอันสอดคล้องระหว่างความวิจิตรประณีตเฉกเช่นศิลปะ

วัตถุเหนือสามัญ และความล้ำสมัยทางวิทยาการประดิษฐกรรม คอลเลกชันนี้จึงคู่ควรแก่ชื่อเรียก Extraordinary Dials เป็นอย่างยิ่ง

คอลเลกชัน Extraordinary Dials คือการหลอมรวมหัตถศิลป์ชั้นสูงแบบฉบับฝรั่งเศสเข้ากับทักษะความชำนาญด้านเครื่องประดับอัญมณี และงานผลิตเครื่องบอกเวลาของเมซงเพื่อเป็นบทสรุปความงดงามทางสุนทรียศิลป์อันปรากฏอยู่บนห้วงจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวแห่งความรัก หรือการยกย่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่เอื้อประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ ผลงานทุกชิ้นนอกจากจะทำหน้าที่เที่ยงตรง และแม่นยำในการบอกเวลา ก็ยังจุดประกายจินตนาการได้อย่างแยบยล

สำหรับนาฬิกาข้อมือ “มนต์เสน่ห์แสงทิวา” Lady Arpels Jour Enchanté (เลดี อารเปลส์ ฌูร็องชองเต) และนาฬิกาข้อมือ “มนตรารัตติกาล” Lady Arpels Nuit Enchantée (เลดี อารเปลส์ นุยต็องชองตี) ต่างเป็นนาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่ของคอลเลกชัน ได้รับการผลิตขึ้นอย่างจำกัดจำนวนพร้อมหมายเลขกำกับรุ่น นอกจากงานออกแบบหน้าปัดจะเต็มไปด้วยความประณีต ซับซ้อนเฉกเช่นงานศิลป์ย่อส่วน ผลงานใหม่คู่นี้ ยังร่วมกันยกระดับความรุดหน้าทางความเป็นเลิศเชิงเทคนิคเพื่อเติมเต็มความวิจิตรตระการตาให้แก่งานออกแบบถ่ายทอดความสดใส มีชีวิตชีวาในธรรมชาติ ภายในกรอบตัวเรือนเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 41 มม. ทัศนียภาพประติมากรรมลายนูนมอบความรู้สึกสมจริงดุจมีชีวิตด้วยการใช้ลูกเล่นมิติความลึก เพื่อยกย่องเสน่ห์จรรโลงอารมณ์จากธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

งานลงยาลายฉลุ (Plique-à-jour)

นาฬิกาข้อมือ “มนต์เสน่ห์แสงทิวา” LADY ARPELS JOUR ENCHANTÉ

นาฬิกาข้อมือ Lady Arpels Jour Enchanté
ตัวเรือนทองคำขาวขนาด 41 มม. ประดับเพชร
หน้าปัดทองคำขาวประกอบทองคำสีเหลืองรองรับงานประดับไพลินสี, โกเมนสีส้มสเปซซาไทต์, เพชร,
หินไข่นกการเวก, งานลงยาลายฉลุ, งานลงยาขึ้นรูปสามมิติ และเทคนิคขึ้นตัวเรือนบนงานลงยา
กลไกขับเคลื่อนระบบไขลาน
สายคาดหนังจระเข้อำนวยต่อการสลับเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง

ท่วงท่าสง่างามยามเก็บดอกไม้ของนางอัปสรใต้แสงแรกแห่งทิวา ให้ความรู้สึกดุจมีชีวิตด้วยมนตราเนรมิตจาก Van Cleef & Arpels

หลังร่มใบตัวเรือนทองคำขาวสุกสกาวรองรับงานลงยาลายฉลุหรือ plique-à-jour (ปลิกาฌูร) ร่วมกับงานประดับเพชร คือมวลดอกไม้ระยับแสงจำแลงความเลอค่าจากไพลินสีเหลือง และเทคนิคลงยาขึ้นรูปสามมิติหรือ façonné (ฟาซงเน) ซึ่งเป็นผลงานพัฒนาล่าสุดของ Van Cleef & Arpels ก่อผลลัพธ์เฉกเช่นแปลงดอกไม้ผลิสะพรั่ง ส่วนประติมากรรมนางฟ้าทองคำขาว อันถือกำเนิดจากความละเอียดลออทางหัตถกรรม คลี่ปีกประดับงานลงยาลายฉลุทอทอประกายเหลือบมุกโปร่งใสรับลำแสงแห่งแรกอรุณที่ทาบทอ

ในส่วนของฉากหลัง บนแผ่นฟ้าซึ่งประกอบขึ้นจากหินไข่นกการเวกหรือเทอร์คอยซ์ถึงสามเฉดสี ทองคำสีเหลืองหล่อแบบสลักเสลาเล่นสันเหลี่ยมต่างแถบรัศมีสาดส่องออกมาจากดวงตะวันฝังรัตนชาติเลอค่า อันได้แก่โกเมนสีส้มสเปซซาไทต์, ไพลินสี และเพชรโดยอาศัยการฝังอัญมณีขึ้นตัวเรือนบนงานลงยาก่อมิติยกสูง เทคนิคนวัตกรรมมอบผลลัพธ์ราวกับหยาดหยดรัตนชาติกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ

สำหรับด้านหลังของตัวเรือน ความต่อเนื่องของเรื่องราวดำเนินผ่านงานสลักขึ้นรูปนางอัปสรโบยบิน ต้องใช้เวลาถึงสองปีไปกับการพัฒนา และ 180 ชั่วโมงกับงานประกอบหน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้ให้เป็นเสมือนเวทีแสดงความแยบคายทางหัตถกรรม และความเป็นเลิศในการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือของ Van Cleef & Arpels

งานลงยาขึ้นรูปสามมิติ และเทคนิคขึ้นตัวเรือนบนงานลงยา

เพื่อเติมเต็มความอ่อนช้อย และคมชัดให้กับทุกแง่มุมบนงานประติมากรรมย่อส่วน ท่ามกลางเทคนิคลงยารูปแบบใหม่ อันเต็มไปด้วยความสลับซับซ้อน ซึ่งเมซงได้พัฒนาขึ้นจนเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ. 2023 ก็คืองานลงยาขึ้นรูปสามมิติหรือ façonné (ฟาซงเน) จากการใช้เวลาศึกษา วิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่องถึง 16 เดือน และเทคนิคขึ้นตัวเรือนบนงานลงยา (setting in enamel) ซึ่งอาศัยเวลาในการพัฒนา และทดสอบขึ้นแบบนานถึง 24 เดือน

งานลงยาขึ้นรูปสามมิติ (façonné enamel)

เทคนิคอันสลับซับซ้อนทางกระบวนการสร้างสรรค์นำมาซึ่งประติมากรรมขนาดจิ๋วด้วยกรอบทรงโครงสัณฐานคมชัด หลังผ่านความร้อนสูง วัสดุลงยาจะถูกเทอย่างเบามือลงบน “สื่อกลาง” หรือ “แกนขึ้นรูป” โลหะเหล็กกล้ากันสนิม (stainless-steel) ทีละหยด ทีละชั้น ให้เนื้อยาแต่ละเฉดสีค่อยๆ ทับซ้อนพร้อมกับตัดเจียน ตกแต่งขึ้นรูปทรงโครงสร้างสามมิติเฉกเช่นงานสลักเสลา แต่ละครั้งที่หยดสีจะต้องนำชิ้นงานไปลนไฟ หรืออบไฟจนแห้งสนิทก่อนตกแต่งรูปทางแล้วจึงนำไปลนไฟ หรืออบไฟความร้อนต่ำอีกครั้งเพื่อขจัดรายละเอียดไม่พึงประสงค์ หรือแง่มุมส่วนเกินทั้งหลายออกไป ช่างลงยาจะดำเนินงานขั้นตอนเหล่านี้สลับกันไปจนได้เนื้องานอันมีความชัดเจนเชิงสัณฐานเยี่ยงประติมากรรมตรงตามความต้องการ ท้ายสุด ตัวงานลงยาขึ้นรูปสามมิติที่ได้นี้ก็จะถูกนำไปอบในเตาไฟปรับความร้อนอย่างระมัดระวังให้สูงกว่า 500 องศาเซลเซียส (930 องศาฟาเรนไฮต์) เพื่อ “รมเงา” ให้ผิวงานเรียบเนียน เกลี้ยงเกลา ทอประกายเงางามราวผ่านการขัดผิวชักเงา กระบวนการทั้งหมดก่อผลลัพธ์เฉกเช่นประติมากรรมสามมิติเนื้อสีโปร่งใส

เทคนิคขึ้นตัวเรือนบนงานลงยา (Setting in enamel)

ในกระบวนการผลิตงานเครื่องประดับ รัตนชาติทั้งหลายจะถูกฝังขึ้นตัวเรือนโลหะเลอค่า ทว่าสำหรับเทคนิคนี้กลับเป็นการนำอัญมณีทั้งหลายมาฝังลงในเนื้องานลงยาลายฉลุหรือ plique-à-jour (ปลิกาฌูร) โดยไม่อิงอาศัยชิ้นส่วน หรือวัสดุโลหะใดๆ

สำหรับกรรมวิธีสรรค์สร้างผลงานทางสุนทรียศิลป์นี้ รัตนชาติซึ่งผ่านการเจียระไนตามรูปทรงอันเหมาะสม จะถูกนำมาเทียบตำแหน่งที่ต้องการฝังประดับอย่างแม่นยำ หลังจากนั้น จึงทำการเซาะแอ่ง หรือเจาะช่องลงในแผ่นลงยารองรับการฝังอัญมณี ก่อนนำตัวเรือนลงยาไปลนไฟ หรืออบในเตาเผา ซึ่งตั้งระดับความร้อนอุณหภูมิสูงให้เนื้อยาสีหลอมละลายยึดตัวเพชรพลอยดังกล่าวอย่างมั่นคง แน่นหนา แต่ต้องไม่เกิดการบิดเบี้ยว เสียรูปทรง อีกทั้งยังคงมิติดังเดิม ก่อผลลัพธ์ของอัญมณี “ล่องลอย” รับแสงตกกระทบจรัสประกายรัศมีรอบทิศทาง

ดอกไม้ประดิษฐ์จากงานลงยาขึ้นรูปสามมิติ                            กระบวนการฝังอัญมณีลงในเนื้องานลงยา

 

ENCHANTING TIME WITH THE MÉTIERS D’ART

ENAMEL: A BLEND OF TRADITION AND INNOVATION

Sublimating the passage of time, métiers d’art contribute to creating a wondrous universe right on the wrist. Inside its Geneva Watchmaking Workshops, Van Cleef & Arpels exalts and eternalizes this savoir-faire, particularly thanks to an enamel workshop and a training school.

Going beyond time-honored methods, the Maison stands out for stimulating innovative enameling techniques that make it possible to create high-relief decors. Each new challenge takes up the composition designed by the Creation Studio and may require up to several years of research and development. A dialogue thus emerges between science and art, reconciling technical demands and stylistic intent to narrate the story held within the watch.

Turquoise marquetry work on the dial of the Lady Arpels Jour Enchanté watch

EXTRAORDINARY DIALS COLLECTION

The Extraordinary Dials collection merges métiers d’art with the Maison’s jewelry and watchmaking expertise to give full form to its enchanting universe. Telling a love story or celebrating the benevolent bounty of nature, these pieces interpret the measurement of time as an appeal to the imagination.

Lady Arpels Jour Enchanté and Lady Arpels Nuit Enchantée – two new limited-edition and numbered watches designed as miniature works of art – have just joined the collection. Blending technical prowess and vibrant tableaux of poetic grace, these three-dimensional scenes come to life within a 41-mm case through an interplay of perspective celebrating Enchanted Nature.

Application of plique-à-jour enamel

LADY ARPELS JOUR ENCHANTÉ WATCH

Lady Arpels Jour Enchanté watch 41-mm case in white gold, diamonds
Dial in white gold, yellow gold, colored sapphires, spessartites grenats, diamonds, turquoise,
plique-à-jour enamel, façonné enamel, setting in enamel, lifted setting Manual-winding mechanical movement
Self-interchangeable alligator leather bracelet

With this creation, the Maison brings to life a graceful silhouette picking flowers under the early morning sun. Light passes through generous leaves of white gold, plique-à-jour enamel and diamonds harboring a field of flowers aglow in dazzling colors. Set with yellow sapphires, these blossoms are rendered in relief thanks to a new technique developed by Van Cleef & Arpels to offer the illusion of a boundless flowerbed: façonné enamel. Meticulously hand-sculpted, the feminine figure in white gold spreads her wings made from sparkling, pearly-white plique-à-jour enamel for a luminous transparency effect.

In the background, affixed to a sky exhibiting three nuances of turquoise, the sun gleams with the radiance of its precious stones: spessartites grenats, colored sapphires, or diamonds. Its rays are secured with a lifted setting, an innovative technique that creates the impression of stones suspended like dewdrops, with no visible attachment. The story continues on the back of the case, through an engraved decor illustrating the fairy taking flight. Two years of development and 180 hours of work were required to assemble this dial, a testimony to Van Cleef & Arpels’ ingenuity.

FAÇONNÉ ENAMEL AND SETTING IN ENAMEL

To give full expression to a miniature sculpture of delicately defined contours, the Maison developed several complex techniques in 2023. These approaches include a means of façonné enamel – which took 16 months to perfect – and setting in enamel – which required 24 months.

Façonné enamel

The material is gently poured onto a stainless-steel medium and then sculpted through whittling motions, sliver by sliver, to produce a three-dimensional form. After low- temperature firing to eliminate the tensions induced in the material, the enamel is carefully glazed at high temperature. Its surface becomes smooth and luminous as if polished. The full process creates a striking visual effect of volume and transparency.

Setting in enamel

This technique involves setting precious stones within the plique-à-jour enamel with no other metal components. To perform this aesthetic exploit, the stone is exactingly positioned in an indentation deftly carved in the enamel. The piece is then re-fired according to a highly precise temperature curve to seal the composition. This process generates a remarkable “floating” effect that accentuates the glow of the precious stones.

Façonné enamel flower                                              Setting in enamel procedure